KAMART เงิดสดเพียบ! พร้อมลุยธุรกิจใหม่โบรกให้เป้า 10.60 บ. อัพไซด์สูงเกือบ 50%

KAMART พร้อมลุยธุรกิจใหม่ จ่อเข้าซื้อบริษัท ดิไอโคนิค พรอพเพอร์ตี้อารีย์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านโรงแรม จำนวน 33,330 หุ้น หรือ 33.33% หวังหนุนธุรกิจโตแกร่ง ฟากโบรกฯ ให้เป้า 10.60 บ. มีอัพไซด์กว่า 47%


KAMART พร้อมลุยธุรกิจใหม่ จ่อเข้าซื้อบริษัท ดิไอโคนิค พรอพเพอร์ตี้อารีย์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านโรงแรม จำนวน 33,330 หุ้น หรือ 33.33% หวังหนุนธุรกิจโตแกร่ง ฟากโบรกฯ ให้เป้า 10.60 บ. มีอัพไซด์กว่า 47%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KAMART จะเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท ดิ ไอโคนิค พรอพเพอร์ตี้ อารีย์ จำกัด จำนวน 33,330 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท คิดเป็นสัดส่วน 33.33% ด้วยมูลค่ารวม 333,300 บาท เพื่อเป็นการสนับสนุนธุรกิจหลักของบริษัทให้เติบโตและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

โดยบริษัท ดิ ไอโคนิค พรอพเพอร์ตี้ อารีย์ เป็นผู้ประกอบกิจการด้านโรงแรม มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ซึ่ง KAMART มองเห็นว่าบริษัทดังกล่าวมีศักยภาพในการดำเนินการให้บริการด้านโรงแรม ตลอดจนมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนธุรกิจหลักของบริษัทให้เติบโตและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยแหล่งเงินลงทุนจะมาจากผลประกอบการของบริษัท

 

ด้านนักวิเคราะห์ นายกรภัทร วรเชษฐ์ บล.โนมูระ พัฒนสิน ยังเฝ้าติดตามดูแผนงานเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท ดิ ไอโคนิค พรอพเพอร์ตี้ อารีย์ จำกัด ซึ่งทำธุรกิจโรงแรม โดยในเบื้องต้นแผนดังกล่าวเป็นการก่อตั้งบริษัทเพื่อศึกษาโอกาสในการเข้าลงทุนในธุรกิจโรงแรมเพื่อเสริมสร้างรายแก่บริษัทในด้านอื่นในอนาคต ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีแผนการลงทุนที่ชัดเจน คาดว่าคงต้องใช้ระยะเวลาอีกระยะหนึ่ง

แต่หากมีการลงทุนดังกล่าวเกิดขึ้น บริษัทยังมีความสามารถในการกู้ได้อีกราว 376 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ D/E ขึ้นมาเท่ากับ 1.0 เท่า จากระดับ D/E ปัจจุบันที่ 0.43 เท่า ประกอบกับบริษัทเงินสดที่มีในมืออีกราว 63 ล้านบาท น่าจะเพียงพอต่อการลงทุน และมีความเสี่ยงต่อการเพิ่มทุนต่ำ

ดังนั้น ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ธุรกิจเครื่องสำอางค์ยังเป็นธุรกิจหลักที่หนุนการเติบโต จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 10.60 บาท ประเมินด้วยวิธี PE multiple อิง Prospective PE ที่ 28 เท่า ซึ่งเป็น PER เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีของบริษัทคิดเป็น PEG 0.96 เท่า ถือว่ามีความเหมาะสมจากแนวโน้มการเร่งตัวขึ้นของฐานกำไรที่คาดว่าจะโตเฉลี่ย 27% CAGR ในช่วง 3 ปีข้างหน้า

*ทั้งนี้หากคำนวณอัพไซต์จากราคาเป้าหมายสูงสุดที่ บล.โนมูระ พัฒนสิน ให้ไว้ที่ 10.60 บาท นั้น KAMART ยังมีอัพไซด์ 47.22% จากราคาปิดวานนี้ที่ 7.20 บาท

 

ขณะที่บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กำไรของ KAMART ในช่วงครึ่งปีหลังปี 58 จะเติบโตโดดเด่นจากการวางจำหน่ายสินค้าตัวใหม่โดยใช้ “พลอย เฌอมาลย์” เป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อกระตุ้นยอดขายตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ปี 58 หนุนยาวจนถึงช่วง High Season ในไตรมาส 4 อีกทั้งปีนี้จะเป็นเป็นปีที่โชว์กำไรของธุรกิจเครื่องสำอางได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้คาดว่ากำไรปี 58 จะเติบโต 128.5% จากปีก่อน คงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8 บาท

 

ราคาหุ้น KAMART วานนี้ (23 ก.ย.) อยู่ที่ 7.20 บาท ปรับตัวขึ้น 0.10 หรือ 1.41% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 27.94 ล้านบาท

 

*อนึ่ง ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button