เปิด 5 หุ้น Top Pick น่าลงทุนประจำเดือนตุลาคม

เปิด 5 หุ้น Top Pick น่าลงทุนประจำเดือนตุลาคมเน้นลงทุนในหุ้น Defensive & ปันผลสูง รวมถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐ และเกี่ยวข้องกับภาคท่องเที่ยวที่ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งอย่าง AOT, BBL, CK, CPNRF และ LPN


บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (1 ต.ค.) ว่า ตลาดหุ้นเดือนตุลาคมยังมีปัจจัยหนุน จากความหวังว่าเศรษฐกิจปี 59 จะเติบโตในอัตราที่สูงขึ้นจากปีนี้ หลังเม็ดเงินจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่ระบบตั้งแต่ต้นปี 59 เป็นต้นไป ประกอบกับภาคท่องเที่ยวของไทยยังไปได้ดี เหตุการณ์ระเบิดราชประสงค์ส่งผลกระทบจำกัดมาก คาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเติบโตได้แข็งแกร่งทั้งในปี 58 และในปี 59 รวมทั้งค่าเงินบาทอ่อนเป็นบวกกับกลุ่มส่งออก แต่เป็นบางบริษัทเพราะบางบริษัทได้รับปริมาณสั่งซื้อ (Order) ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซา การอ่อนค่าของเงินบาทจึงไม่ช่วยมากนัก

ขณะที่ธปท.ประเมินว่าการอ่อนค่าของเงินหยวนคาดว่าจะกระทบกับการส่งออกของไทยจำกัด เนื่องจากสินค้าส่งออกและตลาดส่งออกไม่ได้ทับซ้อนกันมาก และค่าเงินบาทอ่อนค่าไปพร้อมๆ กับเงินหยวนเช่นกัน อีกทั้งสินทรัพย์ทางเลือกลงทุนประเภทอื่นให้อัตราผลตอบแทนที่ไม่จูงใจนัก และบางสินทรัพย์มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องในการซื้อขายด้วย

 

สำหรับปัจจัยเสี่ยง/ไม่แน่นอน ประกอบด้วยเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะภาคการผลิต ที่ชะลอตัวลงมาก กดดันราคาน้ำมัน ถ่านหิน โลหะ ธัญพืช และค่าระวางเรือ ด้านเศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่นก็ฟื้นตัวช้า โดยปัญหาผู้อพยพอาจกดดันเศรษฐกิจยุโรปในระยะต่อไป

ความกังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด เข้ามากดดันเป็นระยะๆ เนื่องจากตลาดประเมินผลกระทบต่อตลาดเงินและตลาดทุนได้ไม่แน่ชัดว่าในช่วงเวลาที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยจริงแล้วจะเป็นอย่างไร

มูลค่าส่งออกของไทยยังติดลบต่อเนื่อง โดยช่วง 8 เดือนแรกของปี 58 หดตัว 4.92% และเป็นเดือนที่มูลค่าส่งออกตกต่ำกว่า 1.8 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ (โดยอยู่ที่ 1.77 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ) นับว่าอ่อนแออย่างเห็นได้ชัด

แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/58 ชะลอตัวจากไตรมาสก่อน เนื่องจาก 1) กลุ่มพลังงานมีขาดทุนในสต็อกหลังราคาน้ำมันดิบร่วงต่อจากวิตกปัญหาอุปทานล้นเกิน 2) การบริโภคและลงทุนในประเทศฟื้นตัวช้ากว่าคาด และ 3) ปัญหาการเมือง, โรคระบาด, ภัยธรรมชาติ เป็นต้น

 

ประเมินเป้าหมาย SET Index ในช่วงที่เหลือของปีนี้อยู่ที่ 1,330 จุด และในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเท่ากับ 1,390 จุด

กลยุทธ์ เน้นลงทุนในหุ้น Defensive & ปันผลสูง รวมถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐ และเกี่ยวข้องกับภาคท่องเที่ยวที่ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง หลักทรัพย์ Top Picks สำหรับเดือนต.ค.58 ประกอบด้วย

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOTธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK, กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ รีเทล โกรท หรือ CPNRF และ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN

Back to top button