“SCI” ขอกู้ชื่อหุ้น IPO ทองคำชูส่วนลด 50%-ธุรกิจหนุนโต

ผลพวงจากสถานการณ์หุ้น IPO น้องใหม่ที่เข้าเทรดแล้วหลุดจองอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้คนในแวดวงตลาดทุนหันมาเทใจให้กับ SCI กันอย่างสุดตัว เหตุราคาขายมีส่วนลดให้มากถึง 50% แถมเป็นการตั้งบนค่า P/E แค่ 11 เท่า เมื่อบวกกับธุรกิจที่ไปลงทุนต่างประเทศหนุนกำไรโตต่อเนื่อง ฟันธงวันที่ 13 ต.ค. คนซื้อหุ้นจองได้เฮอย่างแน่นอน!


ผลพวงจากสถานการณ์หุ้น IPO น้องใหม่ที่เข้าเทรดแล้วหลุดจองอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้คนในแวดวงตลาดทุนหันมาเทใจให้กับ SCI กันอย่างสุดตัว เหตุราคาขายมีส่วนลดให้มากถึง 50% แถมเป็นการตั้งบนค่า P/E แค่ 11 เท่า เมื่อบวกกับธุรกิจที่ไปลงทุนต่างประเทศหนุนกำไรโตต่อเนื่อง ฟันธงวันที่ 13 ต.ค. คนซื้อหุ้นจองได้เฮอย่างแน่นอน!

 

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจบริษัทหลักทรัพย์ที่ทำการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยช่วงต้นเดือนนี้พบว่า มีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 3 ราย โดยทำการซื้อขายเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว 2 ราย  จึงเหลืออีก 1 รายที่จะเข้าซื้อขายในวันที่ 13 ต.ค. ศกนี้ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า 2 รายที่เข้าไปเทรดก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ต่างหลุดจากราคาจองกันทั้งนั้น ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับนักล่าหุ้นจองเป็นอย่างมาก

 

อันดับแรกได้แก่ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด มหาชน หรือ ORI ผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ และการก่อสร้าง ซึ่งทำการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 58  ด้วยราคาเสนอขายหุ้นละ 9 บาท มีจำนวนหุ้น IPO ทั้งสิ้น 150 ล้านหุ้น โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

สำหรับราคาหุ้นที่เข้าเทรดวันแรกนั้น สามารถเปิดเหนือราคาจองได้ตามคาดหมาย แต่ผ่านไปเพียงวันเดียว ราคาหุ้นกลับรูดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมาปิดที่ 7.70 บาท ลบไป 1.20 บาท หรือลงไป 13.48% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 597.71 ล้านบาท ซึ่งมีการวิเคราะห์กันว่า สาเหตุที่ทำให้หุ้นรูดลงมาอย่างต่อเนื่องเป็นผลมาจากหุ้นดังกล่าวตั้งราคาสูงเกินไป นักลงทุนรายย่อยจึงหันไปลงทุนยังหุ้นตัวอื่นเป็นการทดแทน  อีกทั้งยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของมาตรการกระตุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จึงดูเหมือนว่า หุ้นขาดปัจจัยหนุน

 

อันดับที่สองได้แก่ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด มหาชน หรือ TFG ผู้ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารครบวงจร ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการผลิตไก่และสุกร เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 8 ต.ค.58 ด้วยราคาเสนอขายหุ้นละ 1.95 บาท มีจำนวนหุ้น IPO ทั้งสิ้น 1,100 ล้านหุ้น โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

สำหรับราคาหุ้นที่เข้าทำการซื้อขายวันแรกราคาหลุดจองอย่างน่าผิดหวัง ซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากจำนวนหุ้น IPO ที่มีมากเกินไป และการเข้ามาของหุ้นตัวนี้มาด้วยเกณฑ์มาร์เก็ตแคป นักลงทุนจึงรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจว่า หุ้นจะไปได้ไกล หลังจากได้เห็นผลดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 58 มีผลพลิกขาดทุน 448.72 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 250.17 ล้านบาท และผลดังกล่าวก็ทำให้หุ้นรูดลงมาปิดที่1.91 บาท ลดลง 0.04 หรือลงไป 2.05% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.40 พันล้านบาท

 

อันดับสุดท้าย บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด มหาชน หรือ SCI ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายตู้สวิทช์บอร์ด ผลิตและจำหน่ายเสาไฟฟ้าแรงสูง เสาสื่อสารโทรคมนาคม และ ธุรกิจบริการรับเหมาติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงดันสูงและระบบจำหน่ายไฟฟ้า ซึ่งจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 13 ต.ค. 58 ด้วยราคาเสนอขายหุ้นละ 5.90 บาท มีจำนวนหุ้น IPO ทั้งสิ้น 187.50 ล้านหุ้น โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป ประเทศไทย จำกัด มหาชน เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ทั้งนี้ คาดว่า SCI อาจจะเป็นหุ้นที่จะเข้ามากู้หน้าหุ้น IPO ที่หลุดจองไปก่อนหน้านี้ 2 รายด้วย และเหตุผลที่ทำให้เชื่อว่า หุ้นตัวนี้จะกลายเป็นหุ้นทองคำ ล้วนมาจากส่วนลดราคาที่ให้มากถึง 50% บวกกับราคาที่ตั้งขายอยู่บนค่า P/E ที่ 11 เท่า และเมื่อนำมารวมกับธุรกิจที่ลงทุนไว้ในต่างประเทศหนุนกำไรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเรื่องนี้ดูได้จากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 58 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 14.42% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 143.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ย่อมทำให้ SCI เปิดตัวได้อย่างสวยหรู

 

*อนึ่ง ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button