ข่าวร้ายท่วมตลาดพลวัต2015

หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเป็นขาขึ้นชั่วคราวเพราะปรากฏการณ์ Breaking out ในสัปดาห์ก่อน ข่าวร้ายก็ถาโถมเข้ามาท่วมตลาดระลอกใหม่ ส่งสัญญาณทั้งทางตรงและทางอ้อมว่า โอกาสที่ดัชนีและราคาหุ้นหลักของตลาดหุ้นทุกแห่งทั่วโลก จะขึ้นต่อไปอีกนั้น มีขีดจำกัดอย่างมาก และหากไม่ยอมปรับฐานลงมา ก็ยากจะขึ้นต่อไปอีกได้


หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเป็นขาขึ้นชั่วคราวเพราะปรากฏการณ์ Breaking out ในสัปดาห์ก่อน ข่าวร้ายก็ถาโถมเข้ามาท่วมตลาดระลอกใหม่ ส่งสัญญาณทั้งทางตรงและทางอ้อมว่า โอกาสที่ดัชนีและราคาหุ้นหลักของตลาดหุ้นทุกแห่งทั่วโลก จะขึ้นต่อไปอีกนั้น มีขีดจำกัดอย่างมาก และหากไม่ยอมปรับฐานลงมา ก็ยากจะขึ้นต่อไปอีกได้

ปรากฏการณ์อย่างนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนในวงการตลาดเก็งกำไรทั่วโลก เพราะมีขึ้นจนถึงเขตซื้อมากเกินก็ต้องพักฐานหรือปรับฐานเพื่อให้เข้าสู่สมดุลใหม่

ข่าวร้ายที่ถามโถมเข้ามาในสัปดาห์นี้ เริ่มตั้งแต่เมื่อวันจันทร์อย่างไม่เป็นทางการ ด้วยการที่ราคาน้ำมันร่วงแรง ในขณะที่ข้อมูลทางการตามมาเมื่อวานนี้ เริ่มจากตัวเลขส่งออกและนำเข้าของจีนที่ทรุดหนักลงเกินความคาดหมาย และตามมาด้วยข่าวอื่นอีก

เข้าสูตรของลีโอ ตอลสตอย ที่เคยกล่าวเอาไว้ในประโยคแรกของ นวนิยาย แอนนา คาเรนนิน่า อันโด่งดังที่ว่า ความสุขนั้น ทยอยเข้ามากระปริบกระปรอย แต่ความทุกข์นั้น มาทีเป็นชุดใหญ่เสมอ

ข่าวร้ายเมื่อวานนี้ และจะตามมาสมทบเพิ่มเติมในวันนี้แน่นอน ประกอบด้วย

–                สำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยว่า การส่งออกของจีนในเดือนกันยายนลดลง 1.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่ร่วงลง 6.1% ในเดือนสิงหาคม ขณะที่การนำเข้าร่วงลง 17.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 9.24 แสนล้านหยวน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงกว่าเดือนก่อนที่ลดลง 14.3%

–                นักวิเคราะห์สำหนักโบรกเกอร์รายใหญ่สหรัฐฯ ปรับลดตัวเลขหุ้นในบัญชี S&P500 จะมีกำไรไตรมาสสามนี้ ลดลง 7.2% ในการประกาศผลประกอบการเริ่มตั้งแต่สัปดาห์นี้ จากตัวเลขเดิม ลดลง 6.9%

–                รัฐสภาอิหร่านลงมติยอมรับข้อตกลงอิหร่านกับ มหาอำนาจ 6+1 ข้อตกลงลดการเสริมศักยภาพนิวเคลียร์ของอิหร่านอย่างเอกฉันท์ เปิดทางอิหร่านส่งออกน้ำมัน เพิ่มอุปทานน้ำมันโลกขึ้นอีก แลกกับการยกเลิกคว่ำบาตรของมหาอำนาจตะวันตก

–                สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ประเมินว่า ตลาดน้ำมันโลกในปีหน้าจะยังคงมีภาวะน้ำมันล้นตลาดในปีหน้า แม้ว่าประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะปรับลดการผลิตลง  เพราะเหตุผลหลักยังกดดันคือเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มอ่อนแรง

–                สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอังกฤษปรับตัวลงสู่ระดับ -0.1% ในเดือนกันยายน นับเป็นครั้งที่สองในปีนี้ที่ราคาผู้บริโภคปรับตัวลดลง โดยครั้งหลังสุดที่อัตราเงินเฟ้อติดลบคือในเดือนเมษายน

–                รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะเริ่มการหารือเพื่อกระตุ้นให้บรรดาผู้นำภาคธุรกิจของญี่ปุ่นส่งเสริมการลงทุนในด้านทุน หลังจากที่พบว่า อาเบะโนมิกส์เริ่มทำงานไม่ได้ผลต่อเนื่อง อาจะเข้าสู่ภาวะเงินฝืดครั้งใหม่ได้อีก

–                ตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวลดลงวานนี้เกือบทั้งหมด เนื่องจากหุ้นกลุ่มผลิตและค้าสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลง หลังยอดการนำเข้าของจีนร่วงลงมากกว่าคาดการณ์เป็นเดือนที่ 11 และก่อให้เกิดความวิตกว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะร่วงต่ออีกครั้ง

–                ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของไทยในช่วงที่เหลือของปี 2558 ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ไม่สามารถพึ่งพาการส่งออกได้ แต่การลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐยังคงเป็นปัจจัยหลักที่จะสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไปจนถึงสิ้นปี และฉายภาพว่า ภาพรวมกลุ่มธุรกิจ ที่อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์  สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และ การเกษตร ในขณะที่กลุ่มที่มีแนวโน้มขยายตัวได้แก่ โรงพยาบาลและบริการด้านสุขภาพ การท่องเที่ยว รับเหมาก่อสร้าง และโทรศัพท์เคลื่อนที่

ข่าวร้ายเหล่านี้ แม้จะมีข่าวดีแทรกประปราย แต่เป็นบรรยากาศที่ไม่ส่งเสริมให้ดัชนีตลาดหุ้นของไทยที่เมื่อวานนี้เริ่มปรับตัวลดลงวันแรก หลังจากทะยานขึ้นมามากกว่า 67 จุดใน 6 วันทำการนับแต่จันทร์เมื่อสัปดาห์ก่อน ในขณะที่ต่างชาติเริ่มขายออกวันแรก ทั้งในตลาดปกติและตลาดตราสารอนุพันธ์ ทำให้โอกาสที่ดัชนีวันนี้จะพักฐานหรือปรับฐานหลุดไปใต้แนวรับ 1,400 จุด เป็นไปได้สูงมาก

ขนาดเมื่อวานนี้ มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลอายุนาน 6 เดือน และการร่นเวลาประมูล 4 จี ของ กทค.เร็วขึ้น 1 เดือนเศษ  ที่ถือเป็นข่าวดีอย่างมาก กลับไม่ทำให้ตลาดขานรับมากนัก มีแต่รายการฉวยโอกาสดันราคาหุ้นมาออกของขายทิ้งท้ายตลาดเท่านั้น

ตลาดหุ้นมีขึ้นได้ ก็ย่อมมีลง เป็นกฎธรรมดาที่นักลงทุนต้องทำความเข้าใจ และตอกย้ำกันไปเรื่อยๆ เพราะหลังจากลงไปแล้วก็จะกลับขึ้นมาอีก วนเวียนกันไปเช่นนี้

Back to top button