PDI ปรับเปลี่ยนครั้งใหม่!!

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 58 บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (CGH) ได้มาหุ้นของ PDI ด้วยจำหนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น 0.36% ของสิทธิออกสียงทั้งหมดของกิจการจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 20.34% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ และทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ เปลี่ยนแปลงไปดังนี้


–คุณค่าบริษัท–

           

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 58 บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (CGH) ได้มาหุ้นของ บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ PDI ด้วยจำหนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น 0.36% ของสิทธิออกสียงทั้งหมดของกิจการจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 20.34% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ และทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ เปลี่ยนแปลงไปดังนี้

หลังจากการเปลี่ยนแปลง (ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2558)สัดส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มใหม่ ได้แก่ อันดับ 1. บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์   มีจำนวนหุ้น 34,677,200 หุ้น สัดส่วนอยู่ที่ 15.34% อันดับ 2. กระทรวงการคลัง มีจำนวนหุ้น 31,200,000 หุ้น สัดส่วนอยู่ที่ 13.81% อันดับ 3. บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด   มีจำนวนหุ้น 11,300,000 หุ้น สัดส่วนอยู่ที่ 05.00% อันดับ 4. ธนาคารกรุงเทพ มีจำนวนหุ้น 7,301,070 หุ้น สัดส่วนอยู่ที่ 03.23%

การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นที่มีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มใหม่ จะมีเจตนารมณ์ที่จะสนับสนุนการดำเนินธุรกิจที่สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินกลยุทธ์ เดิมคือ มุ่งขยายออกจากธุรกิจโลหะสังกะสีสู่ธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์โลหะด้านพลังงาน และบริหารจัดการกากของเสียเชิงนิเวศ

นอกจากนี้ บริษัทยังมีความน่าสนใจ อย่างการขยายงานของ บริษัท พีดีไอ แมททีเรียล จำกัด (PDI Materials) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนจำนวนหนึ่งบริษัท ร่วมกับบริษัท คาร์ บอนรีดักชั่น เทคโนโลยี เอเอส (CRT)) จากประเทศนอร์เวย์ โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มแรกจำนวน 100,000 บาท

ต่อมาได้จดทะเบียนเพิ่มทุนเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 รวมเป็นทุนจดทะเบียน ณ ปัจจุบัน คือ 52,000,000 บาท ภายใต้ชื่อบริษัท พีดีไอ-ซีอาร์ที จำกัด เพื่อขยายฐานธุรกิจของกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการรีไซเคิลและผลิตพลังงาน โดยใช้เทคโนโลยีพลาสมา รวมถึงการสร้างความเจริญเติบโตทางธุรกิจที่ยั่งยืนให้กับกลุ่มธุรกิจในอนาคต ประเภทธุรกิจกิจการรีไซเคิลและให้บริการด้านเทคโนโลยี ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า และที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี ทำให้โครงสร้างการถือหุ้น PDI Materials ถือครอง 2,651,999 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 51 CRT ถือครอง 2,548,000 หุ้น สัดส่วน 49%

ผลดังกล่าวอาจจะช่วยให้บริษัทมีรายได้และกำไรขยับขึ้นมากว่าก่อนหน้า!!

โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการลดลงเหลือ 1,215.59 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,450.65 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทขาดทุน 74.65 ล้านบาท หรือ 0.33 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 166.10 ล้านบาท หรือ 0.73 บาทต่อหุ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการลดลงเหลือ 3,638.36 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 4,179.76 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรลดลงเหลือ 312.62 ล้านบาท หรือ 1.38 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 481.05 ล้านบาท หรือ 2.13 บาทต่อหุ้น

เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงิน พบว่ายังมีความแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 4,294.55 ล้านบาท นำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนเพียง 1,244.88 ล้านบาท ได้ค่า CURRENT RATIO อยู่ที่ระดับ 3.45 เท่า สภาพคล่องมีมากเกินความจำเป็น ยิ่งมาดูหนี้สินของบริษัทแถบไม่น่าห่วงเลย เพราะมีหนี้สินรวม 1,872.29 ล้านบาท นำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น 3,773.52 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.50 เท่า ถือว่าบริษัทยังปลอดหนี้อยู่

อย่างไรก็ดีการปรับเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่ใหม่ จะมีอะไรปรับเปลี่ยน หรือเปลี่ยนแปลงส่วนได้ของ PDI หรือไม่ดูกันไปยาวๆ

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.กระทรวงการคลัง 31,200,000 หุ้น 13.81%

2.BALI VENTURES LIMITED 22,622,600 หุ้น 10.01%

3.บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 11,300,000 หุ้น 5.00%

4.นายอานันท์ ตันติจรัสชีพ 7,700,000 หุ้น 3.41%

5.ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 7,301,070 หุ้น 3.23%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย อาสา สารสิน ประธานกรรมการ

2.นาย ฟรานซิส แวนเบลเลน กรรมการผู้จัดการ

3.นาย ทอมมี่ เตชะอุบล กรรมการ

4.น.ส. ประภา ปูรณโชติ กรรมการ

5.นาย สดาวุธ เตชะอุบล กรรมการ    

Back to top button