ดอลล์ปรับขึ้น หลังตลาดหุ้น-ราคาน้ำมันเริ่มมีเสถียรภาพ

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (14 ม.ค.) หลังจากตลาดหุ้นที่มีเสถียรภาพและการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันได้ช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนมีความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0860 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0875 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.4408 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4445 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.15 เยน จาก 117.84 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0060 ฟรังก์ จาก 1.0065 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.6993 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6961 ดอลลาร์

ดอลลาร์ปรับตัวแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนมีความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ขานรับการที่ตลาดหุ้นและราคาน้ำมันเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังจากปรับตัวย่ำแย่ในช่วงก่อนหน้านี้ และส่งผลให้สกุลเงินที่มีความปลอดภัยอย่างสกุลเงินเยนอ่อนค่าลง ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ โดยตลาดได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2

นอกจากนี้ สถานการณ์ในตลาดการเงินที่ปรับตัวดีขึ้นยังช่วยหนุนแนวโน้มที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจไม่ลังเลในการคุมเข้มนโยบยการเงินเพิ่มเติม และจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหลายครั้งในปีนี้ตามที่ได้วางแผนไว้ การคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟดในปีนี้นับเป็นปัจจัยบวกสำหรับดอลลาร์ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะทำให้ดอลลาร์มีความน่าดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุน เนื่องจากจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ

Back to top button