JAS และ BBLลูบคมตลาดทุน

หุ้น JAS หรือ บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ราคารูดหนักเลยวานนี้ เช่นเดียวกับหุ้น TRUE หรือ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ก็ปรับลดลง


ธนะชัย ณ นคร

 

หุ้น JAS หรือ บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ราคารูดหนักเลยวานนี้

เช่นเดียวกับหุ้น TRUE หรือ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ก็ปรับลดลง

ปัจจัยไม่มีอะไรมาก

นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับที่ JAS จะต้องจ่ายเงินค่าไลเซนส์จากการประมูล 4G คลื่นความถี่ 900 MHz ให้กับ กสทช. ในรอบแรกเมื่อใด

หรือจริงๆ แล้ว JAS มีปัญหาการขอสินเชื่อกับแบงก์กรุงเทพ หรือ BBL หรือไม่

มาดูฝั่งของ BBL กันก่อน

ก่อนหน้านี้ ก็มีข่าวออกมาแล้วว่า BBL จะมีความสามารถในการปล่อยสินเชื่อต่อรายได้ไม่เกิน 25% ของเงินกองทุน

หากเกินกว่านั้น ก็ต้องรายงานต่อธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.

มีการคำนวณออกมาว่า ความสามารถของ BBL ในการปล่อยสินเชื่อต่อรายไม่เกิน 25% ของเงินกองทุนนั้น จะอยู่ไม่เกิน(ประมาณ) 95,000 ล้านบาท

มีการดีดลูกคิดค่าใช้จ่ายของ JAS กันออกมาครับ

ค่าไลเซนส์อยู่ประมาณ 75,000 ล้านบาท

และเงินที่ต้องใช้ลงทุนต่างๆ จิปาถะ อีกราวๆ 25,000 ล้านบาท เมื่อรวมกันแล้วจะมีมูลค่า 1 แสนล้านบาท

ปุจฉาแรก คือ…. JAS จะขอสินเชื่อทั้ง 1 แสนล้านบาท หรือไม่

เรื่องนี้ นักวิเคราะห์ต่างมองว่า ไม่น่าใช่

นั่นเพราะ JAS ยังมีเครื่องมือทางการเงิน หรือในการหาเงินอื่นๆ อีกหลายช่องทาง

เพียงแต่ว่า ผ่านมาถึงตรงนี้ ยังไม่มีใครทราบสัดส่วนที่ชัดเจนว่า JAS จะจัดสรรเงินลงทุนต่างๆ มาจากช่องทางไหน วิธีการใด และอย่างไร เพราะผู้บริหาร JAS เองก็ยังไม่ได้ให้รายละเอียดมากนัก

จึงยังคงมีแต่เพียงคาดการณ์ หรือวิเคราะห์กันไปเท่านั้น

ดังนั้น หาก JAS ต้องการขอสินเชื่อจาก BBL และขอไม่เกิน 95,000 ล้านบาท(เพราะมีช่องทางหาเงินอื่นๆ อีก) ทาง BBL ก็ไม่จำเป็นต้องรายงานต่อแบงก์ชาติแต่อย่างใด

ประเด็นนี้เข้าใจตรงกันนะ

ประเด็นต่อมาคือ สินทรัพย์ของ JAS หากดูสิ้นไตรมาส 3/58 พบว่ามีอยู่กว่า 5.22 หมื่นล้านบาท

ถามว่า JAS สามารถขอกู้เงินเกินกว่าสินทรัพย์ของตนเองได้หรือไม่

หรือ BBL สามารถปล่อยกู้มากกว่าสินทรัพย์ของลูกค้าได้หรือไม่

วิสัชนาก็คือ “ได้ครับ”

ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของนายแบงก์นั่นแหละ

หากนายแบงก์ดีดลูกคิดแล้วมองว่า โอกาสทางธุรกิจของ JAS โรยด้วยกลีบกุหลาบ จะมีแหล่งรายได้แน่นอน มีสัญญาที่ทำให้กับลูกค้าแล้ว เงินเข้ามาแน่ๆ

เขาก็สามารถที่จะปล่อยกู้ได้ โดยดูจากรายได้ในอนาคตนั้นๆ มาการันตี

ยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นอีก

เช่น หากนายแบงก์จะปล่อยกู้ให้กับธุรกิจพลังงานทางเลือก ก็ไม่ได้ดูเพียงสินทรัพย์ของผู้ขอสินเชื่อ

ทว่า จะดูสัญญาที่ผู้กู้ได้ทำสัญญากับลูกค้าเอาไว้ว่าสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเป็นอย่างไร รายได้เท่าไหร่

สิ่งเหล่านี้จะถูกคำนวณออกมา พร้อมกับการประเมินความเสี่ยง

หากตัวเลขรายได้ในอนาคตสวยงาม ความเสี่ยงต่ำ นายแบงก์เขาก็พร้อมจะหยิบปากกามาเซ็นให้เอาเงินไปใช้

ดังนั้น ประเด็นเรื่องของสินทรัพย์ JAS ต่ำกว่าเงินที่ต้องการกู้ จึงไม่ได้สำคัญมากนัก

ความสำคัญจึงอยู่ที่แผนธุรกิจของ JAS ที่มีความเป็นไปได้ว่า BBL ต้องการเห็นแผนที่ชัดเจนว่า JAS จะทำการตลาด และมีแผนธุรกิจอย่างไร

ขณะที่มีข่าวว่า BBL อยากเห็นแผนธุรกิจของ JAS ที่ชัดเจน หรือให้ไปทำมาให้อะไรนั่นแหละ

ที่ผ่านมานั้น BBL ค่อนข้างวางตัวเงียบพอสมควร เกี่ยวกับการจะปล่อยสินเชื่อให้กับ JAS

และมีเพียง JAS เท่านั้น ที่บอกว่า มี BBL เป็นคล้ายๆ กับพันธมิตรด้านการเงิน หรือเป็นแบงก์การันตีให้(ตามที่ กสทช.กำหนด) แต่ไม่ได้มีรายละเอียดในส่วนของการขอสินเชื่อ

ส่วนตัวแล้ว ไม่ทราบว่า JAS และ BBL มีการพูดคุยเรื่องนี้กันมากแค่ไหน

แต่เชื่อว่ามีการคุยกันแน่นอน

BBL อย่างที่เรารับทราบกันว่า เชี่ยวชาญในการปล่อยสินเชื่อรายใหญ่

คัดแล้ว คัดอีก….ไม่มีซี้ซั้ว

ก่อนหน้านี้ หรือหลังการประมูลคลื่น 4G ผมเคยเขียนความเห็นของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร   ได้ลดน้ำหนักหุ้นในกลุ่มมือถือลง เพราะมองว่า กำไรคงไม่งดงามเหมือนก่อนหน้านี้

ทั้งจากการแข่งขันที่รุนแรง และใช้เงินลงทุนสูงขึ้น

เช่นเดียวกับความเห็นของคุณนเรศ งามอภิชน รวมถึง “เสี่ยยักษ์” วิชัย วชิรพงศ์ ก็ว่าอย่างนั้นเช่นกัน

เว้นแต่จะเห็นแผนธุรกิจที่ชัดเจนก่อน

 

 

Back to top button