ดอลล์ร่วงหลังราคาน้ำมันดิ่งฉุดตลาดหุ้นทั่วโลก

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินเยนเมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงได้จุดปะทุแรงเทขายในตลาดหุ้นทั่วโลก และส่งผลให้นักลงทุนมีความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่าค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0884 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0917 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.4173 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4179 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 116.94 เยน จาก 117.49 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0048 ฟรังก์ จาก 1.0025 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.6920 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6912 ดอลลาร์

นักลงทุนต่างก็ต้องการเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางวิกฤตพลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้ตลาดหุ้นทั้งในสหรัฐ ยุโรปและเอเชียต่างปรับตัวย่ำแย่
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดนิวยอร์กร่วงลง 1.91 ดอลลาร์ หรือ 6.7% ปิดที่ 26.55 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด

ส่วนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 1.56% เมื่อคืนนี้ ในการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวนและตื่นตระหนก เช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ดิ่งลงอย่างหนัก ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง นอกจากนี้ ตลาดยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากที่เมื่อต้นสัปดาห์ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และสหรัฐในปีนี้ จากการประเมินก่อนหน้านี้ในเดือนต.ค.2558 โดยระบุถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่ เช่น จีน

ทั้งนี้ ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) นั้น IMF ระบุว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.4% ในปีนี้ ลดลง 0.2% จากที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ หลังจากที่มีการเติบโต 3.1% ในปีที่แล้ว
IMF คาดว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.6% ในปี 2560 ลดลง 0.2% จากคาดการณ์ครั้งก่อน

Back to top button