เลือกช้อป 9 หุ้นมงคล รับเต็มอานิสงส์ตรุษจีน

จัดทีม 9 หุ้นมงคล รับอานิสงส์เทศกาลตรุษจีน เตรียมรับยอดขายกระฉูด-นักท่องเที่ยวจากจีนแห่เที่ยวตปท.


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการคัดเลือกบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากเทศกาลตรุษจีน ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 8-14 ก.พ.นี้ เนื่องจากในเทศกาลดังกล่าวจะมีการเฉลิมฉลอง ประชาชนจะจับจ่ายใช้สอยอาหาร, เครื่องดื่ม, เครื่องอุปโภคบริษัทต่างๆ เพื่อนำมาเป็นของไหว้ รวมถึงจะมีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว ทำให้ธุรกิจด้านสายการบินและโรงแรมได้รับผลดีไปด้วย

 

สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์ดังกล่าวมีดังนี้

China20160205

 

เริ่มต้นที่กลุ่มธุรกิจประเภทอาหา สำหรับบจ.ที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์มีดังนี้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ผู้ประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ,บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT ผู้ประกอบธุรกิจการเกษตรครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่ปู่ย่าพันธุ์ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่พ่อแม่พันธุ์ และบริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) หรือ BR ผู้นำในธุรกิจผลิตอาหารจากเนื้อเป็ดแบบครบวงจร โดยดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและผลิตอาหารจากเนื้อเป็ดที่มีคุณภาพในระดับพรีเมี่ยม โดยช่วงเทศกาลตรุษจีนบจ.ดังกล่าวได้มีการปรับลดราคาอาหาร หรือของไหว้ อาทิ เป็ดพะโล้ไหว้เจ้า ไก่ย่างไหว้เจ้า เพื่อกระตุ้นยอดขาย

 

กลุ่มธุรกิจประเภทสินเชื่อและบัตรเครดิต บจ.ที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์คือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ผู้ดำเนินธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค ธุรกิจบัตรเครดิต ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจบัตรเครดิต และธุรกิจสินเชื่อบุคคล ซึ่งคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากเทศกาลตรุษจีนเนื่องจากประชาชนจะจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคมากขึ้น ขณะที่บริษัทได้มีการจัดโปรโมชั่นผ่านบัตรเครดิตเพื่อกระตุ้นยอดขายอีกด้วย

 

กลุ่มธุรกิจประเภทโรงแรม บจ.ที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์ได้แก่ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่น และบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์ของตนเอง เซ็นทารา โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท เซ็นทรา และธุรกิจรับจ้างบริหารโรงแรมภายใต้สัญญาบริหารโรงแรม และธุรกิจอาหารจานด่วนในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ของตนเอง คือ เดอะ เทอเรส และริว และแฟรนด์ไชส์ทั้งนี้คาดว่าเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์ดังกล่าว เนื่องจากนักท่องเที่ยวจากจีนจะเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ธุรกิจด้านโรงแรมจึงมียอดจองเพิ่มสูงขึ้น

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หุ้นใหญ่ในกลุ่มโรงแรม Underperform ตลาดอยู่ 6-7% โดยแนะ “ซื้อ” หุ้น MINT,CENTEL เนื่องจากราคาหุ้นกลุ่มโรงแรมอย่าง MINT และ CENTEL ปรับลดลงตั้งแต่ปลายปีก่อน สวนทางกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่อง และ Underperform SET อยู่ 6-7% ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้หากพิจารณาในเชิงเทคนิคประกอบจะเห็นว่าราคาหุ้นกำลังฟื้นตัวที่แนวรับทั้ง MINT และ CENTEL โดยแนะนำ “ซื้อ” MINT ให้ราคาพื้นฐาน 42 บาท โดยมี Upside หลังจากซื้อโรงแรม Tivoli เพิ่ม และ CENTEL ให้ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 50 บาท โดยคาดการณ์กำไรไตรมาส 4/58 ออกมาดี จากจำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตแข็งแกร่ง และธุรกิจอาหารฟื้นตัวดีขึ้น และคาดการณ์กำไรไตรมาส 1/59 จะออกมาดีต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของธุรกิจท่องเที่ยว พร้อมประเมินเป้าหมายระยะสั้น MINT ที่ 36.50 บาท และ CENTEL ที่ 41.25 บาท

 

กลุ่มธุรกิจประเภทสายการบิน บจ.ที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์ได้แก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ผู้ประกอบธุรกิจท่าอากาศยานของประเทศไทย ,บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA บริษัทประกอบธุรกิจสายการบิน ธุรกิจสนามบิน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสนามบิน และบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ผู้ประกอบธุรกิจด้านการลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยในปัจจุบัน บริษัทถือหุ้นใน บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัดเพียงแห่งเดียว สำหรับบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการสายการบินราคาประหยัด ซึ่งในเทศกาลตรุษจีนนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ มากขึ้น เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว ทางสายการบินต่างๆ จึงได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นด้วย

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์คาดว่าการภาคท่องเที่ยวของประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากประเทศไทยเป็นเป้าหมายหลักของนักท่องเที่ยวจีนจากรองจากฮ่องกงและมาเก๊า

ทั้งนี้คนจีนมีวันหยุดยาว ระหว่างวันที่ 8-14 ก.พ.59 คาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะยังคงมาเที่ยวประเทศไทยมากกว่าปีก่อนและอาจสนับสนุนราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวระยะใกล้นี้ โดยจากสถิติในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานั้นแสดงให้เห็นว่าหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว (โรงแรม,สนามบิน,สายการบิน) จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1-9% ในช่วงก่อนและหลังเทศกาลตรุษจีน ซึ่งถึงแม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกจะยังหดตัวในปีนี้ แต่ยังคงเชื่อว่าปริมาณนักท่องเที่ยวจีนจะยังคงเพิ่มขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งที่ 20% จากปีก่อนในปี 59 โดยยังคงชอบหุ้นสนามบินและสายการบินมากกว่าโรงแรมเนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนที่มากกว่า และคาดผลประกอบการไตรมาส 4/58 ดี

โดยเลือก AOT (ราคาเป้าหมาย 400 บาท), BA (ราคาเป้าหมาย 30 บาท), AAV (ราคาเป้าหมาย 7 บาท) และ CENTEL (ราคาเป้าหมาย 46 บาท) เป็น toppick ของ sector

 

ด้าน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 59 นั้นพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ 36.3% ระบุว่าบรรยากาศช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้คึกคักกว่าปี 58 โดยคาดว่าปีนี้จะมีเม็ดเงินสะพัดในช่วงตรุษจีน 52,561 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% จากปีก่อนที่มีเม็ดเงินสะพัดอยู่ที่ 50,472 ล้านบาท

ส่วนการวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้น พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ถึง 83.4% ตอบว่าไม่มีการวางแผนการท่องเที่ยว ขณะที่อีก 16.6% ระบุว่ามีการวางแผนการท่องเที่ยว โดยในกลุ่มที่ตอบว่ามีการวางแผนการท่องเที่ยวนี้พบว่าส่วนใหญ่ 91.3% เลือกที่จะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ มีเพียง 8.7% ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ

ขณะที่ก่อนหน้านี้ องค์การการท่องเที่ยวโลก (WTO) คาดการณ์ว่าจำนวนชาวจีนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกินหลัก 6 ล้านคนในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าจีนยังคงเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก

โดยเมื่อปี 58 จีนมีจำนวนนักท่องเที่ยวขาออกแตะ 120 ล้านคน โดยนับตั้งแต่ปี 57 จีนมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นอัตราแตะเลขสองหลักทุกปี ขณะเดียวกัน จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าของจีนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี จากตัวเลขสถิติพบว่าจีนมีนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศรวมกันกว่า 4.1 พันล้านคนในปี 58 โดยมีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 4 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 10% และ 12% ตามลำดับ

Back to top button