SET บ่ายยืนบวกตามกระแสเงินไหลเข้าคัด 13 หุ้นเด็ด-รับเหมาฯ ร่วงแรงน่าเก็บ

โบรกฯคาดแนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายคาดดัชนียังสามารถเคลื่อนไหวในแดนบวกได้เช่นเดียวกับช่วงเช้า โดยปัจจัยหนุนยังคงเป็นปัจจัยเดียวกับช่วงเช้าในเรื่องราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และค่าเงินดอลลาร์สหรับฯออ่นค่าในช่วงนี้ หนุนกระแสเงินไหลเข้า พร้อมให้แนวต้าน 1,310 จุด แนวรับ 1,290 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (5 ก.พ.) ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนในแดนบวก แต่สามารถเคลื่อนไหวในเหนือระดับ 1,300 จุดได้ ซึ่งเป็นไปตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเอเชีย รับปัจจัยหนุนราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า ส่งผลกระแสเงินไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคและตลาดหุ้นไทย แนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายคาดดัชนียังสามารถยืนอยู่ในแดนบวกได้ต่อ จากปัจจัยหนุนเดียวกับช่วงเช้า พร้อมให้แนวต้าน 1,310 จุด แนวรับ 1,290 จุด

 

นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายงิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาดัชนีผันผวนในแดนบวก โดยสามารถปรับตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวในระดับ 1,300 จุด ได้ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่มีการเคลื่อนไหวอิงแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยปัจจัยหนุนในวันนี้เป็นเรื่องราคาน้ำมันที่มีการปรับเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะยังมีความผันผวนอยู่ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่า ทำให้กระแสเงินไหลเข้าในตลาดหุ้นภูมิภาค รวมไปถึงตลาดหุ้นไทยมากขึ้นในช่วงนี้

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายคาดว่าดัชนียังสามารถเคลื่อนไหวในแดนบวกได้เช่นเดียวกับช่วงเช้า โดยปัจจัยหนุนยังคงเป็นปัจจัยเดียวกับช่วงเช้าในเรื่องราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และค่าเงินดอลลาร์สหรับฯออ่นค่าในช่วงนี้ หนุนกระแสเงินไหลเข้า พร้อมให้แนวต้าน 1,310 จุด แนวรับ 1,290 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 5 ก.พ.) ว่า SET ปรับสูงขึ้นยืนเหนือ 1,300 จุด แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยทั้งหุ้นใหญ่ และหุ้น 2nd-Tier ปรับสูงขึ้นหนุน SET ยืนเหนือ 1,300 จุด วันนี้ โดยหุ้นหลักเป็นหุ้นกลุ่มนำตลาดตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา (แนะนำ “ซื้อ” PTT SCB ที่มี Valuation ถูกใกล้เคียงช่วง 2551 และ ADVANC ที่กำไรออกมาดี ปันผลสูง) แต่ยังมองว่า กลุ่มหุ้น 2nd-Tier จะเป็นกลุ่มที่ Outperform ตลาดช่วงนี้ อย่างกลุ่มโรงแรม อาทิ MINT CENTEL และกลุ่ม Micro Finance อย่าง MTLS และSAWAD อีกทั้งกลุ่มรับเหมาฯ อย่าง CK STEC แลกลุ่มโรงพยาบาล (คาดว่าจะค่อยๆ กลับมาดีกว่าตลาด) อย่าง BH CHG

สำหรับราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ ปรับลดลงแรงตั้งแต่ปลายปี 58 และ Underperform SET อยู่ 6-16% ตั้งแต่ต้นปี 59 ที่ผ่านมา ขณะที่การประมูลทั้งโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล อย่างรถไฟรางคู่ มอเตอร์เวย์ และการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ และการประมูลโรงไฟฟ้า 2 โรงขนาด 2600MW ของ EGAT ภายในไตรมาส 1/58 จะเป็นปัจจัยหนุนการปรับสูงขึ้นของกลุ่มรับเหมาฯ “ซื้อ” STEC (แนวต้าน 23.80 บาท) ขณะที่ “เก็งกำไร” ITD และ TPIPL (คาดปริมาณการใช้ปูนเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 59 หลังเริ่มก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ขณะที่ในทางเทคนิคลุ้นทะลุแนวต้าน 2.34 บาท จะมีเป้าหมายถัดไปที่ 2.44/2.50 บาท ตามลำดับ)

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,863.04 ล้านบาท ปิดที่ 168.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 990.94 ล้านบาท ปิดที่ 42.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 884.36 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 797.51 ล้านบาท ปิดที่ 132.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท        

PTT มูลค่าการซื้อขาย 743.62 ล้านบาท ปิดที่ 240.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

Back to top button