หุ้นยุโรปปิดบวกจากแรงซื้อกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์อย่างคึกคัก หลังจากธนาคารกลางจีนปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เพื่อกระตุ้นสภาพคล่องและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิด (1 มี.ค.) บวก 1.4% แตะที่ 338.72 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,406.84 จุด เพิ่มขึ้น 53.29 จุด หรือ +1.22%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,717.16 จุด พุ่งขึ้น 221.76 จุด หรือ +2.34% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,152.88 จุด เพิ่มขึ้น 55.79 จุด หรือ +0.92%

ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.5% สู่ระดับ 17% สำหรับธนาคารขนาดใหญ่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาดการเงิน และกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศ ภายหลังจากที่ราคาหุ้นจีนร่วงลงและเงินหยวนอ่อนค่า

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดของจีนช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน และหุ้นอาร์เซลอร์มิททัล ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 6.5% นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานในยูโรโซนร่วงลงสู่ระดับ 10.3% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปีครึ่ง หรือนับตั้งแต่เดือนส.ค.2011 จากระดับ 10.4% ในเดือนธ.ค. ส่งผลให้ผู้ว่างงานมีจำนวนลดลง 105,000 ราย สู่ระดับ 16.65 ล้านราย

ปัจจัยที่หนุนการปรับตัวลงของอัตราการว่างงานคือการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรป ซึ่งได้ทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาด นอกจากนี้ ยูโรที่อ่อนค่า ก็ช่วยหนุนการปรับตัวลงของอัตราการว่างงานเช่นกัน

Back to top button