บลจ.กสิกรไทย เผยหุ้นอาเซียนโดดเด่นโชว์ผลงาน K-AEC ผลตอบแทน 4.76%

บลจ.กสิกรไทย เผยหุ้นอาเซียนโดดเด่น โชว์ผลงาน K-AEC ให้ผลตอบแทน 4.76%


นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี – ณ วันที่ 28 มีนาคม 2559 ตลาดหุ้นของภูมิภาคอาเซียนในภาพรวมปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าในภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนสูงสุดในอาเซียน โดยตั้งแต่ต้นปีให้ผลตอบแทนประมาณ 10% รองลงมาได้แก่ ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ให้ผลตอบแทนที่ 9.4%, ตลาดหุ้นอินโดนีเซียให้ผลตอบแทนที่ 4.8% และตลาดหุ้นมาเลเซียให้ผลตอบแทนที่ 3.6% (ข้อมูล ณ 28 มี.ค. 2559)

โดยการที่ตลาดหุ้นอาเซียนปรับตัวได้ดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เนื่องมาจากปัจจัยบวกของกระแสเงินทุนไหลกลับเข้ามาในตลาดประเทศเกิดใหม่ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา รวมถึงตัวเลขผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในอาเซียนในภาพรวมปรับตัวได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในอินโดนีเซีย ตลาดได้มีการปรับตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตของผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน (Earnings Revision) ขึ้นประมาณ 5% เมื่อเทียบกับต้นปี ส่วนตลาดมาเลเซียและฟิลิปปินส์มีการปรับตัวเลขคาดการณ์ขึ้นประมาณ 0-1% ในขณะที่ตลาดไทย ตัวเลขการคาดการณ์มีการปรับตัวลดลงประมาณ 6%

“อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงหลักที่นักลงทุนควรต้องติดตามต่อเนื่อง คือ การทยอยประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศกลุ่มพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ซึ่งหากมีการปรับตัวได้ดีขึ้นกว่าที่คาด อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ออกมาส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในการประชุมครั้งถัดไป ซึ่งอาจส่งผลทำให้กระแสเงินทุนไหลกลับออกไปยังตลาดประเทศพัฒนาแล้ว นักลงทุนจึงควรใช้ความระมัดระวังหากต้องการเข้าลงทุนในระยะสั้น ทั้งนี้บลจ.กสิกรไทยคาดว่าในปี 2559 นี้ ตลาดจะยังมีความผันผวนอยู่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมองว่าในแง่ระดับราคาหุ้นในกลุ่มภูมิภาคอาเซียน ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาได้ปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก ระดับราคาปัจจุบันจึงไม่ได้ถูกมากนัก ทำให้อาจมีแรงเทขายทำกำไรในระยะสั้นได้” นางสาวธิดาศิริกล่าว

โดยปัจจุบันบลจ.กสิกรไทยมีกองทุนรวมที่ไปลงทุนในตลาดหุ้นกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ กองทุนเปิดเค อาเซียน อีโคโนมิค คอมมูนิตี้ หุ้นทุน (K-AEC) ซึ่งบริษัทได้เปิดเสนอขายครั้งแรกไปเมื่อเดือนกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2559 กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลังอยู่ที่ 4.74% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 เดือน ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 4.76% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค. 59) ทั้งนี้กองทุน K-AEC มีนโยบายลงทุนโดยตรงในหุ้นของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งในเบื้องต้นจะลงทุนในหุ้นจำนวนไม่เกิน 30 ตัว ที่มีสภาพคล่องและศักยภาพในการเติบโตสูงของ 4 ประเทศหลัก ได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ โดยกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเป็นไปตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

สำหรับจุดเด่นของกองทุน K-AEC คือการเข้าไปลงทุนโดยตรงในกลุ่มประเทศอาเซียน ทำให้ทีมงานจัดการกองทุนมีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมกิจการและพบปะผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาบลจ.กสิกรไทยได้ส่งทีมผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์ รวมทั้งหมด 17 คน เพื่อเข้าไปศึกษาและวิเคราะห์หุ้นในกลุ่มประเทศอาเซียนมาเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว โดยมีการวิเคราะห์หุ้นเชิงลึกในรายตัวครอบคลุมกว่า 150 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของมูลค่าตลาดในแต่ละประเทศ

ทั้งนี้การพิจารณาคัดเลือกหุ้นจะเน้นที่การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในระดับบริษัท (Bottom-up / Fundamental Approach) ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพในการประเมินมูลค่าหุ้น (Stock Valuation) ตามธีมการลงทุนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงด้วย ทั้งนี้ได้รวมเอาเรื่องการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและการมีธรรมาภิบาลที่ดี (Environment, Social and Governance) เข้ามาเป็นส่วนประกอบหนึ่งในการพิจารณาลงทุนอีกด้วย” นางสาวธิดาศิริกล่าวในที่สุด 

Back to top button