เสิร์ฟ 4 หุ้นน้ำตาลน่าสอยอัพไซด์สูง-ปัจจัยบวกเพียบ!

เสิร์ฟ 4 หุ้นน้ำตาลน่าสอย เด้งรับผลดีราคาน้ำมันในตลาดโลกฟื้น เข้าไฮซีซั่นธุรกิจน้ำตาลใน Q2/59 โบรกฯ ประสานเสียงเชียร์ “ซื้อ” ชูอัพไซด์สูงเกิน 10%


เสิร์ฟ 4 หุ้นน้ำตาลน่าสอย เด้งรับผลดีราคาน้ำมันในตลาดโลกฟื้น เข้าไฮซีซั่นธุรกิจน้ำตาลใน Q2/59 โบรกฯ ประสานเสียงเชียร์ “ซื้อ” ชูอัพไซด์สูงเกิน 10%

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ได้ทำการสำรวจบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย และธุรกิจที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์พลอยได้ที่ได้จากการผลิตน้ำตาลทราย ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะได้รับผลดีหลังราคาน้ำตาลในตลาดโลกเริ่มฟื้นตัว อีกทั้งมีปัจจัยบวกจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 ที่คาดออกมาสดใส และเข้าช่วงไฮซีซั่นของอุตสาหกรรมน้ำตาลไทยในไตรมาส 2/59 นอกจากนี้ ยังเป็น บจ. ที่มีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายเกิน 10% โดยมี บจ. ที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวทั้งหมด 4 รายคือ KSL, KTIS, KBS และ BRR

 

โดยนักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (19 เม.ย.) ว่า ราคาน้ำตาลพลิกกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งในระยะสัปดาห์ที่ระดับสูงกว่า 15 เซ็นต์ต่อปอนด์ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากปรากฎการณ์ เอลนีโญ ทำให้คาดปริมาณอ้อยของไทยที่จะส่งออกสู่ตลาดปี 2558/2559  ลดลงจากงวดก่อนหน้า เหลือ 97 ล้านตันอ้อย หรือทำให้ผลผลิตน้ำตาลทรายออกสู่ตลาดลดลงราว 11.5% จากปีก่อน เหลือ 10 ล้านตัน เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี นับว่าสอดคล้องกับ International Sugar Organization (ISO) คาดการณ์ว่าปริมาณผลิตน้ำตาลโลกในปี 2558/59 (เมื่อ ก.พ.2559) ว่าจะขาดดุล 5.02 ล้านตัน เป็นการขาดดุลจากประมาณการเดิมที่คาดไว้ 3.53 ล้านตัน (พ.ย.2558)

ซึ่งในสถานการณ์นี้ถือว่าดีต่อผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL,บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS, บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ KBS และบริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR

 

ทั้งนี้ ให้ราคาเป้าหมาย KSL ที่ 4.82 บาท โดยมองว่าบริษัทมีโครงสร้างรายได้กระจายตัว กล่าวคือ มาจากน้ำตาล 70% ของรายได้รวม  ที่เหลือมาจากธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเช่น เอทานอล และ โรงไฟฟ้า เป็นต้น ขณะที่ราคาน้ำตลาดในตลาดโลกขณะนี้ถือว่าดีกว่าสมมติฐานที่ประเมินไว้ที่ 15.5 เซ็นต์/ปอนด์ (ขณะที่ KSL เปิดเผยว่าบริษัทอ้อยและน้ำตาลทรายได้ทำสัญญาขายน้ำตาลดิบเฉลี่ยปี 58/59 ไว้แล้ว 70% ของยอดขายทั้งหมดที่ราคา 15.5 เซ็นต์ต่อปอนด์ คาดว่า KSL ทำสัญญาขายไว้ใกล้เคียงกัน)

ส่วนที่เหลืออีก 30% น่าจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำตาลที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ (ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ที่ 18 เซนต์ต่อปอนด์ รวมค่า premium ของน้ำตาลไทยแล้ว 1 เซ็นต์/ปอนด์ เนื่องจากไทยขายน้ำตาลในปริมาณน้อยกว่าและอยู่ใกล้ประเทศผู้นำเข้ามากกว่า อาทิ อินโดนีเซีย เป็นต้น) ทำให้โดยรวมแล้ว คาดว่า อนท.จะทำสัญญาขายน้ำตาลเฉลี่ยปี 2558/59 ที่ 16.25 เซ็นต์/ปอนด์

อย่างไรก็ตาม ปัญหาภัยแล้ง ทำให้แนวโน้มปริมาณขายน้ำตาลปี 2558/59 ของ KSL จะลดลงจากคาดการณ์เดิมราว 7.8% จึงหักล้างปัจจัยบวกข้างต้นไป ทั้งนี้ ราคาหุ้น KSL ได้ปรับขึ้นไปแล้วกว่า 10% แต่ยังมี Upside อีก 13.70% จึงยังแนะนำ ซื้อ

 

นอกจากนี้ ยังแนะนำ KTIS โดยโครงสร้างรายได้มาจากธุรกิจน้ำตาล 80% ที่เหลือ ได้แก่ เอทานอล 8%, กระดาษ 7%, ไฟฟ้า 3% และอื่นๆ 2% โดยคาดกำไรปี 2559 อยู่ที่ 955 ล้านบาท เติบโต 30.8% ประเมิน Fair Value ไว้ที่ 8.50 บาท อิง PBV 3.6 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 1.5 ปีที่ 4.2 เท่า) มี Upside 18.90%

ด้าน KBS โครงสร้างรายได้มาจากธุรกิจน้ำตาล 80% ที่เหลือ ได้แก่ ไฟฟ้า 10% และอื่นๆ อีก 10% คาดกำไรปี 2559 อยู่ที่ 100 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 50 ล้านบาทในปี 2558 ประเมิน Fair Value ไว้ที่ 9 บาท อิง PBV 1.34 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 4 ปีที่ 1.62 เท่า) มี Upside 20.80%

ส่วน BRR โครงสร้างรายได้มาจากธุรกิจน้ำตาล 80% ที่เหลือ ได้แก่ ไฟฟ้า 10% และอื่นๆ อีก 10% คาดกำไรปี 2559 อยู่ที่ 350 ล้านบาท เติบโต 28.4% จากปีก่อน ประเมิน Fair Value ไว้ที่ 13.12 บาท อิง PBV ค่าเฉลี่ย 1.3 ปีที่ 3.87 เท่า ซึ่งนับว่าค่อนข้างแพง ประกอบกับราคาปัจจุบันใกล้เคียง FV ไปแล้ว จึงแนะนำ switch มายัง KTIS และ KBS

 

ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า BRR ก้าวสู่การบันทึกกำไรที่จุดสูงสุดใหม่ในไตรมาส 1/59 คาดที่ระดับ 156.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.5% จากปีก่อน และเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 2/59 ซึ่งจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของอุตสาหกรรมน้ำตาลไทย ทั้งนี้ให้มูลค่าเหมาะสมปี 59 ที่ 15.60 บาท มี Upside 17.29% โดยคาด EPS growth ในปี 2559 เติบโตกว่า 81.9% จากปีก่อน และเติบโตต่อเนื่องสามปีข้างหน้าเฉลี่ย (2559-2561) กว่า 55.2%

Back to top button