IEC ทุ่ม 300 ลบ.ซื้อโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพหนองรี ชู IRR เกิน 14%

IEC ทุ่ม 300 ลบ.ซื้อกิจการ-พัฒนาโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพหนองรี อ.บ่อพลอย กำลังการผลิต 3 MW คาดซื้อเสร็จภายใน Q2/59 คาดใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า 1 ปี เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าได้ Q2/60


บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2559 มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพหนองรี อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี โดยการเข้าซื้อหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท โรงไฟฟ้าหนองรี จำกัด (โรงไฟฟ้าหนองรี) จำนวน 500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท ซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ และถือสิทธิตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (“Power Purchase Agreement, PPA”) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (“กฟภ”) ขนาดกำลังไฟฟ้าสูงสุด 3 เมกะวัตต์ (MW) นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าหนองรียังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินซึ่งจะเป็นที่ตั้งโครงการ ทั้งนี้ ในปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าหนองรียังไม่ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างและจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการลงทุนก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพจากน้ำเสีย ขนาดกำลังการผลิต 3 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งจะพัฒนาขึ้นบนที่ดินจำนวน 28 ไร่ ในตำบลหนองรี อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ที่จะได้มาจากการเข้าทำรายการซื้อหุ้นดังกล่าว โดยอนุมัติงบลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพหนองรีเท่ากับ 300.07 ล้านบาท

โดยบริษัทจะดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ ขนาดกำลังการผลิต 3.0 MW โดยใช้น้ำเสียจากโรงงานผลิตเอทานอลเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตก๊าซชีวภาพผ่านกระบวนการย่อยสลายสารอินทรีย์แบบไร้อากาศ (Anaerobic Digestion) เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งบริษัทได้เจรจาและมีกำหนดการจะเข้าทำสัญญารับซื้อน้ำเสียจากโรงงานผลิตเอทานอลแห่งหนึ่งหลังจากการซื้อขายหุ้นแล้วเสร็จ เพื่อให้มีปริมาณวัตถุดิบในการผลิตก๊าซชีวภาพที่เพียงพอและสม่ำเสมอ และบริษัทคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าประมาณ 1 ปี โดยจะสามารถเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 2 ปี 2560

ทั้งนี้แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของโรงไฟฟ้าหนองรีและการก่อสร้างและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ จะมาจากเงินกู้ยืมสถาบันการเงินประมาณ 200 ล้านบาท หรือร้อยละ 67 ของเงินลงทุนทั้งหมดของโครงการ โดยส่วนที่เหลืออีกประมาณ 100.07 ล้านบาท จะมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

โดยปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเงินกู้โครงการกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะได้รับอนุมัติวงเงินประมาณ 200 ล้านบาท หรือเทียบเท่ากับอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ของโครงการที่ 2.0 เท่า โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเท่ากับ 0.33 เท่า ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมโดยทั่วไป บริษัทจึงคาดว่าจะสามารถจัดหาเงินกู้ยืมได้ตามแผนที่วางไว้

สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับบริษัทจากการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพหนองรี สอดคล้องกับแผนการดำเนินงานระยะยาวของบริษัทที่ต้องการมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน การเข้าซื้อหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของโรงไฟฟ้าหนองรีจะทำให้บริษัทได้มาซึ่งใบอนุญาตประกอบกิจการโรงไฟฟ้า (ร.ง.4) สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พร้อมด้วยที่ดินจำนวน 28 ไร่ ในอำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งช่วยลด-ขั้นตอนเกี่ยวกับการจัดหาที่ดิน ใบอนุญาต และร่นระยะเวลาการลงทุนในโครงการ ทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้การลงทุนในโครงการดังกล่าว ถือเป็นการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพและสามารถสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอจากการจำหน่ายไฟฟ้า โดยฝ่ายบริหารและที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทได้ร่วมกันประเมินและศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุนในโครงการดังกล่าว ด้วยการจัดทำประมาณการทางการเงินเป็นระยะเวลา 20 ปี และคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุนในโครงการ (Project IRR) ได้มากกว่าร้อยละ 14 โดยโครงการมีมูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดสุทธิ (NPV) เท่ากับ 138.6 ล้านบาท และมีระยะเวลาคืนทุนประมาณ 7 ปี ดังนั้น การลงทุนในโครงการดังกล่าวจึงสามารถสร้างผลตอบแทนในอัตราที่เหมาะสมให้กับบริษัท เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทากาไรและทาให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดีขึ้น รวมถึงมีเงินสดสารองและมีสภาพคล่องเพื่อการขยายธุรกิจในอนาคต

Back to top button