บลจ.กรุงไทย ชวนเก็บกองทุนเด่นจับจังหวะตลาดผันผวน ชูผลแทนสูง

บลจ.กรุงไทย ชวนเก็บกองทุนเด่น จับจังหวะตลาดผันผวน ชูผลแทนสูง


นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการ ผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ บลจ.กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า ในเดือนมิถุนายนบริษัทจะคัดสรรกองทุนที่เหมาะสมของบริษัทให้นักลงทุนได้เลือกลงทุน เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดี โดยมองว่า กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้พลัส (KTFIXPLUS) เป็นกองทุนที่น่าสนใจ ในช่วงที่ภาวะการลงทุนมีความผันผวน

โดยกองทุนดังกล่าวมีการบริหารในเชิงรุก เน้นลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการเงิน รวมทั้งลงทุนในเงินฝาก และจะลงทุนในต่างประเทศ ใม่เกิน 50% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนมีการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน กองทุนจะลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ อันดับเครดิตเฉลี่ยอยู่ที่ A กองทุนนี้มุ่งสร้างผลตอบแทนรวมจากการลงทุนในตราสารหนี้ในช่วงอายุคงเหลือระหว่าง 1-5 ปี ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ในระยะเวลาลงทุน 6 เดือน ขึ้นไป

ทั้งนี้สาเหตุที่กองทุนดังกล่าวน่าสนใจ เนื่องจากดอกเบี้ยทรงตัวในระดับต่ำ และสภาพคล่องในระบบยังมีอยู่ในระดับสูง เอื้อต่อการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศยังฟื้นตัวช้า และเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะชะลอตัว จึงคาดว่ากองทุนมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ในภาวะที่ตลาดผันผวน

โดยผลตอบแทนย้อนหลัง ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2559 ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 2.61% ย้อนหลัง 9 เดือน อยู่ที่ 2.36% และ 1 ปี อยู่ที่ 2.17% ส่วนเกณฑ์มาตรฐาน AIMC ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 7.09% 9 เดือน อยู่ที่ 5.77% และ 1 ปี อยู่ที่ 4.91% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐาน AIMC จะคำนวณ จากร้อยละ 50 ของอัตราผลตอบแทน จาก TBMA Government Bond Index (Tatal Retuen Index) และ ร้อยละ 50 ของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภทบุคคลธรรมดา วงเงิน 1 ล้านบาท ระยะเวลา 1 ปี ของธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง ได้แก่ BBL KBANK และ SCB

ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทย หุ้น ไฮดิวิเดนด์ (KT-Hidiv) จะเน้นลงทุน ในหุ้นที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีประวัติการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำ เสมอ และมีการคาดการณ์ว่า จะจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดโดยรวม ซึ่งกองทุนจะเลือกลงทุนในหุ้น ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐ เช่น กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มวัสดุก่อสร้าง หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว และ อุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น กลุ่มขนส่ง กลุ่มโรงแรม หุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มพลังงาน ที่มีการปรับตัวลดลงมามาก จนต่ำกว่ามูลค่าตามปัจจัยพื้นฐาน

สำหรับปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้กองทุน KT-Hidiv น่าสนใจเนื่องจาก สภาพคล่องในตลาดการเงินสูง อัตราดอกเบี้ยทรงตัวระดับต่ำ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะมีอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐ ที่ทยอยประกาศออกมา เศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ช่วงของการฟื้นตัว และมาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจของจีน ญี่ปุ่น และ EU

โดยผลตอบแทนย้อนหลัง ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2559 ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 5.76% 9 เดือน อยู่ที่ 5.81% และ 1 ปี อยู่ที่ 3.08% ส่วน เกณฑ์มาตรฐาน AIMC ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 8.39% 9 เดือน อยู่ที่ 4.44% และ 1 ปี อยู่ที่ -8.92 % โดยเกณฑ์มาตรฐานคำนวณจาก ดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index

 

 

Back to top button