รวบ! “ไฮโซทะเล” ลูก “ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต” ชิงรถปอร์เช่-ทรัพย์สิน 4 ลบ. นักธุรกิจสิงคโปร์

ตำรวจรวบ “ไฮโซทะเล" ลูก "ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต" พร้อมเพื่อน "เพชร” ผู้ต้องหาร่วมกันปล้นทรัพย์-กักขังหน่วงเหนี่ยวนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ หลังนัดมาเจรจาหนี้สินก่อนยึดรถยนต์หรูและทรัพย์สินอีกกว่า 4 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ก.ค.) ตำรวจชุดสืบสวน สน.ห้วยขวาง และตำรวจสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 นำหมายจับเข้าจับ นายธฤต ณ พัทลุง หรือ ไฮโซทะเล ในคอนโดนแห่งหนึ่งย่านถนนหลังสวน หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีร่วมกันปล้นทรัพย์ และกักขังหน่วงเหนี่ยว นอกจากนั้นยังเข้าจับ นายเพชร บุญวงษ์ นักธุรกิจด้านวิศวกรรมชอฟแวร์ ที่บ้านพักราคากว่า 10 ล้านบาท ย่านถนนนาคนิวาส เนื่องจากตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเดียวกัน

โดยคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายเป็นนักธุรกิจชาวสิงคโปร์แจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่า ถูก นายเพชร นัดหมายให้มาเจรจาเรื่องหนี้สินที่เหลืออีก 3 ล้านบาท หลังจากยืมไป 7 ล้านบาท ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านรัชดาภิเษก จากนั้นก็มี นายธฤต เข้ามาร่วมพูดคุยด้วย โดยมาพร้อมกับการ์ดอีก 2 คน ที่ผู้เสียหายอ้างว่าแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าได้พูดคุยกันถึงเวลา 4 นาฬิกา ของอีกวันหนึ่ง และพบว่า นายธฤต กับการ์ด ได้คุมตัวผู้เสียหายออกจากห้องโดยใช้มือไขว้หลัง และขับรถยนต์ปอร์เช่ รุ่นคาเยนน์ จำนวน 1 คัน ของผู้เสียหาย พร้อมทรัพย์สินอีกจำนวนหนึ่งมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท หลบหนีไป ก่อนที่จะปล่อยตัวผู้เสียหาย

โดยหลังเกิดเหตุผู้เสียหายมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เมื่อวันที่ 6 ก.ค. เนื่องจากยังรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา และเข้าจับเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

เบื้องต้นตำรวจยังไม่พบรถยนต์หรู และของกลางที่กลุ่มผู้ต้องหายึดไป คาดว่าอยู่กับเจ้าของเว็บไซต์พนันฟุตบอลอีกคนหนึ่ง ขณะนี้กำลังติดตามตัวมาดำเนินคดี

สำหรับนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ ให้การว่ารู้จักกับ นายเพชร มาประมาณ 5 ปี ก่อนที่จะไปเที่ยวในกลุ่มไฮโซด้วยกัน และได้รู้จักกับนายธฤต นอกจากนั้นยังอ้างว่า นายเพชร กับนายธฤต เล่นพนันออนไลน์จนเสียเงินไปกว่า 10 ล้านบาท จึงได้มาขอยืมเงินไปใช้หนี้ แต่ในชั้นสอบสวน นายเพชรยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นหนี้ดังกล่าว ส่วนในวันเกิดเหตุยอมรับว่าเป็นผู้นัดหมายให้นักธุรกิจชาวสิงคโปร์เข้ามาพบกับนายธฤต แต่ได้กลับออกจากร้านอาหารไปก่อน

โดยตำรวจยังอยู่ระหว่างการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคน และกำลังขยายผลถึงผู้ร่วมก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งพบว่ายังมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีก รวมทั้งกำลังติดตามรถยนต์หรู และทรัพย์สินที่ถูกยึดไปมาคืนให้ผู้เสียหาย

ขณะที่ ทนายความของ นายธฤต ยืนยันว่า ไฮโซทะเล ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ความจริงมีเพียงครึ่งเดียว ส่วนพฤติการณ์ไม่ได้ปล้นทรัพย์ตามที่กล่าวหา แต่ไฮโซทะเลลงทุนกับนายหยาง (Yang) นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ ผู้เสียหาย โดยลูกความตนไม่รู้ตัวว่าถูกออกหมายจับคดีก่อเหตุร่วมกันปล้นทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ ซึ่งลูกความตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการร่วมกันก่อเหตุปล้นทรัพย์ แต่ยอมรับว่ารู้จักกับผู้เสียหายชาวสิงคโปร์ และอยู่ร่วมกับเหตุการณ์นี้จริง แต่ไม่มีแรงจูงใจที่จะก่อเหตุ เพราะลูกความของตัวเองมีธุรกิจ และมีทรัพย์สินมากกว่าของที่ถูกกล่าวหาว่าปล้นทรัพย์ไป จึงไม่จำเป็นต้องปล้นใคร

อย่างไรก็ตาม ทนายอ้างว่าผู้เสียหายชาวสิงคโปร์คนนี้เป็นลูกหนี้ของลูกความตน หลังมาขอยืมเงิน 1 ล้านบาท ไปลงทุนทำธุรกิจเมื่อราวปีที่แล้ว ซึ่งตนมีหลักฐานการกู้ยืมถูกต้อง

ทั้งนี้ ทนายความเปิดเผยอีกว่า ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า รถยนต์ปอร์เช่ มูลค่ามากกว่า 4 ล้านบาทของผู้เสียหายคนนี้สูญหายไป ยืนยันว่า รถยนต์ไม่ได้อยู่กับลูกความตัวเอง มีเพียงคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คมูลค่าหลักหมื่นเท่านั้นที่อยู่กับไฮโซทะเล โดยเป็นการหยิบยืมกัน และตั้งใจจะเอาไปคืนอยู่แล้ว ส่วนตัวเชื่อว่าผู้เสียหายชาวสิงคโปร์พูดความจริงไม่หมด และกำลังพิจารณาว่าจะแจ้งความกลับข้อหาแจ้งความเท็จ เพราะทั้ง 3 คนมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงในการทำธุรกิจ

ส่วนกลุ่มชายฉกรรจ์ ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้นรู้จักโดยผิวเผิน เพราะเคยไปเที่ยวด้วยกัน และมีเพียงลูกความของตน ที่พูดภาษาอังกฤษได้ จึงเข้าไปช่วยพูดคุยในวันเกิดเหตุ ซึ่งตำรวจกำลังติดตามตัวคนที่เหลือมาสอบสวนขยายผล เชื่อว่า ผู้เสียหายไม่มีเจตนาจะแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดนายเพชร และไฮโซทะเล แต่เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้เสียหายชาวสิงคโปร์รู้จักเพียงแค่ 2 คนนี้เท่านั้น

สำหรับประวัติ นายธฤต ณ พัทลุง หรือ ทะเล หนุ่มหล่อเข้มทายาทนามสกุลดัง เป็นลูกชายของ ครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง (ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต) หลังจากเรียนจบจากประเทศอังกฤษ ได้ทำงานและบวช 1 ปี ก่อนจะสึกออกมาเรียนต่อมหาวิทยาลัย King’s College London สาขาประเมินความเสี่ยง (Risk Analysis) หลังเรียนจบได้เป็นผู้บริหารของกองทุน Private Equity fund ที่ลงทุนในบริษัททั่วโลก ส่วนนายเพชร บุญวงษ์ เป็น CEO PRX Metaverse จบการศึกษาปริญญาตรีด้านวิศวะจากประเทศอังกฤษ มีความรู้และเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ และโมเดล 3 มิติเป็นอย่างดี

Back to top button