BDMS, CPN, MINT, PTT, SCB ราคาขยับขึ้นทั่วหน้าน หลังถูกเพิ่มน้ำหนัก FTSE รอบใหม่

โดยเมื่อเวลา 11.46 น. ราคาหุ้นบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS , บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ,  บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT, และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB  ราคาขยับขึ้นทั่วหน้าหลังเป็นตัวเต็งที่จะถูกเพิ่มน้ำหนักจาก FTSE รอบใหม่

หุ้น BDMS บวก 0.87% มาอยู่ที่ 23.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 504.76 ล้านบาท

หุ้น CPN บวก 0.42% มาอยู่ที่ 59.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 414.89 ล้านบาท

หุ้น MINT บวก 1.84% มาอยู่ที่ 41.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 148.40 ล้านบาท

หุ้น PTT บวก 1.45% มาอยู่ที่ 351 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 372.14 ล้านบาท

 หุ้น SCB บวก 1.59% มาอยู่ที่ 159.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 337.19 ล้านบาท

 

ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯให้เน้น“ทยอยสะสม”กลุ่มที่คาดจะถูกเพิ่มน้ำหนักจาก FTSE Rebalance รอบใหม่ โดยใกล้ช่วงการทบทวนดัชนี FTSE All-World APAC รอบใหม่ ซึ่งจะมีการประกาศ 31 ส.ค. นี้ และมีผล 19 ก.ย.59 จึงคาดการณ์ว่าหุ้นไทย 18 บริษัท มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนักรวมมากถึง 3.1 หมื่นล้านบาท

กรณีเกิดขึ้นจริงตามคาดการณ์ ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ Fund Flow กับ SET Index จากสมการถดถอย (Regression) ซึ่งใช้ข้อมูลตั้งแต่ 15 ก.พ.59 – ปัจจุบัน (เป็นช่วงที่ Fund Flow ไหลเข้ารอบนี้ รวมกว่า 1.25 แสนล้านบาท) จะพบว่า กรณี Fund Flow ไหลเข้าอีก 1 หมื่นล้านบาท, 2 หมื่นล้านบาท และ 3 หมื่นล้านบาท จะส่งผลให้ SET Index มีโอกาสขยับขึ้นสู่ระดับ 1,587.6 จุด, 1,605.6 จุด, 1,623.6 จุด ตามลำดับ (R-square 91.22%) ถือเป็น Upside Risk ต่อ SET ในระยะถัดไป

ดังนั้น จึงแนะกลุ่มที่น่าจะได้อานิสงส์จาก Flow ดังกล่าว เน้นบมจ.ปตท. (PTT) (คาดถูกเพิ่มน้ำหนัก 6.8 พันล้านบาท),ธ.ไทยพาณิชย์ (SCB) (คาดถูกเพิ่มน้ำหนัก 4.7 พันล้านบาท), บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) (คาดถูกเพิ่มน้ำหนัก 3.8 พันล้านบาท), บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) (คาดถูกเพิ่มน้ำหนัก 2.3 พันล้านบาท), บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) (คาดถูกเพิ่มน้ำหนัก 1.7 พันล้านบาท)