Daily View – (P.M.) – บล.กสิกรไทย

 

Tactical Move

เดินเกมกลยุทธ์บ่าย

สรุปภาวะตลาดเช้า
– SET Index ปรับลง 8.74 จุด (-0.59%) ปิดภาคเช้าที่ 1,478.90 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 25,433 ลบ.
– Most Positive Impact: CPALL (0.23 จุด) THAI (0.17 จุด) ESSO (0.14 จุด)
– Most Negative Impact: SCB (-1.04 จุด) SCC (-0.74 จุด) AOT (-0.59 จุด)

แนวโน้มตลาดบ่าย
– ตลาดทั่วภูมิภาคส่วนใหญ่ปรับถอยลงมา และตลาดไทยเองแกว่งถอยลงมาตามคาด คาดว่าอาทิตย์หน้าอาจจะยังคงมีแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงเมื่อใกล้เข้าสู่การเลือกตั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย. ซึ่งล่าสุด หลังคะแนนความนิยมของโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงขยับขึ้นมาจี่ ฮิลลารี โดยเหลือเพียง 1.3% จากเช้านี้ที่ 1.7% วานนี้ที่ 2.4% และกลางเดือน ต.ค. ที่ 7%
– เช้านี้ หุ้นเกือบทุกกลุ่มปรับถอยลงมา โดยกลุ่มที่ฉุดตลาดหลักๆ ได้แก่ กลุ่มธนาคาร (-2.37 จุด) กลุ่มพลังงาน (-1.35 จุด) และกลุ่มวัสดุก้อสร้าง (-0.86 จุด)
– คืนนี้จับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงาน ซึ่งหากออกมาดีกว่าคาด อาจทำให้ US Dollar แข็งค่าขึ้น แต่คาดว่าตลาดทุนไม่น่าจะตอบรับในเชิงลบ เนื่องจากตลาดรับรู้กันแล้วว่า Fed น่าจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. นี้ นอกจากนี้ ยังคงต้องจับตา US 10Y Bond Yield และ US Dollar เชื่อว่าจะเป็นสัญญาณแรกที่ฟ้องการไหลออกของ Fund Flow หาก Bond Yield ปรับเพิ่มขึ้น และ US Dollar แข็งค่า คาดว่าจะตลาด Emerging Market น่าจะโดนเทขายทิ้งหนัก
– ช่วงบ่าย SET Index อาจมีรีบาวด์คาดแกว่งในกรอบ 1475-1490
– กลยุทธ์การลงทุนเลือกหุ้น Laggard ที่ High Upside และ High EPS Growth เลือก BA เป็น Top Pick และสะสมกลุ่มรับเหมาฯ CK STEC นอกนั้น ยังให้ Let Profit Run ในชุดหุ้น BLA BJC KCE HMPRO CPN CPALL SPALI

หุ้นแนะนำ: BLA BA KCE CPALL CBG CK
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: –

Alternative Trading:
SET50 Futures : ตัดขาดทุนไปวานนี้ที่ 933 จุด หากถอยลงมาที่ 920 อาจกลับมาเปิดสถานะ Long เล็งไปทำกำไรที่ 930 และมีจุดตัดขาดทุนที่ 915