
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 16 พ.ย.59
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ เมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการปรับฐานลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากที่หุ้นกลุ่มดังกล่าวทะยานขึ้นติดต่อกันหลายวัน อันเนื่องมาจากความหวังที่ว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะครอบคลุมถึงการลดกฎข้อบังคับในภาคธนาคาร
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,868.14 จุด ลดลง 54.92 จุด หรือ -0.29% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,294.58 จุด เพิ่มขึ้น 18.96 จุด หรือ +0.36% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,176.94 จุด ลดลง 3.45 จุด หรือ -0.16%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลง เมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการเทขายหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 43.02 จุด หรือ 0.63% แตะที่ 6,749.72 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ เมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) โดยหุ้นไบเออร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยาและเคมีภัณฑ์ด้านการเกษตรของเยอรมนี ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากบริษัทประกาศแผนระดมทุนเพื่อใช้ในการเข้าซื้อกิจการบริษัทมอนซานโต ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเมล็ดพันธุ์พืชของสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 338.47 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,663.87 จุด ลดลง 71.27 จุด หรือ -0.66% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,501.14 จุด ลดลง 35.39 จุด หรือ -0.78% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,749.72 จุด ลดลง 43.02 จุด หรือ -0.63%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบ เมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากเจ้าหน้าที่รัสเซียคาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปกจะสามารถบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 45.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 32 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 46.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลง เมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองสัญญาทองคำ โดยดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 60 เซนต์ หรือเกือบ 0.1% ปิดที่ระดับ 1,223.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 11.6 เซนต์ หรือ 0.68% ปิดที่ 16.927 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 11.8 ดอลลาร์ หรือ 1.26% ปิดที่ 946.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 12.85 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 718.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 109.35 เยน จากระดับ 109.13 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0039 ฟรังก์ จากระดับ 1.0021 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3431 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3468 ดอลลาร์แคนาดา
เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0670 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0720 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะระดับ 1.2433 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2440 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงแตะระดับ 0.7477 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7545 ดอลลาร์สหรัฐ