สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 21 พ.ย.59


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ เมื่อวันศุกร์ (18 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ หลังจากที่หุ้นกลุ่มดังกล่าวทะยานขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากความหวังที่ว่า นโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะเอื้อประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า การแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของสกุลเงินดอลลาร์อาจจะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทที่ต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นรายได้หลัก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,867.93 จุด ลดลง 35.89 จุด หรือ -0.19% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,321.51 จุด ลดลง 12.46 จุด หรือ -0.23% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,181.90 จุด ลดลง 5.22 จุด หรือ -0.24%

 

-ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ เมื่อวันศุกร์ (18 พ.ย.) โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์อาจส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทเหมืองแร่ที่ต้องพึ่งพาการส่งออก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารของอิตาลี

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.4% ปิดที่ 339.39 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,504.35 จุด ลดลง 23.42 จุด หรือ -0.52% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,664.56 จุด ลดลง 20.98 จุด หรือ -0.20% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,775.77 จุด ลดลง 18.94 จุด หรือ -0.28%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบ เมื่อวันศุกร์ (18 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ จากความวิตกกังวลที่ว่า การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์อาจส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทเหมืองแร่ที่ต้องพึ่งพาการส่งออก

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,775.77 จุด ลดลง 18.94 จุด หรือ -0.28%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้น เมื่อวันศุกร์ (18 พ.ย.) โดยตลาดน้ำมันได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะสามารถดำเนินการตามข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมัน ในการประชุมอย่างเป็นทางการซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ย.นี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 45.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 37 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 46.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง เมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 8.2 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ 1,208.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 14.8 เซนต์ หรือ 0.88% ปิดที่ 16.624 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 23.1 ดอลลาร์ หรือ 2.44% ปิดที่ 920.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1.85 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 727.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (18 พ.ย.) หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 110.62 เยน จากวันพฤหัสบดีที่ระดับ 109.91 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0096 ฟรังค์ จากระดับ 1.0067 ฟรังค์

เงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.0604 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0629 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์ร่วงลงสู่ระดับ 1.2354 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2418 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7343 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7412 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button