สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 ม.ค.60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค. โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวรวดเร็วขึ้นเนื่องจากมาตรการกระตุ้นการคลังของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งอาจทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วขึ้นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มรถยนต์ หลังจากบริษัทรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) และฟอร์ด มอเตอร์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,942.16 จุด เพิ่มขึ้น 60.40 จุด หรือ +0.30% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,477.00 จุด เพิ่มขึ้น 47.92 จุด หรือ +0.88% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,270.75 จุด เพิ่มขึ้น 12.92 จุด หรือ +0.57%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัว เมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) โดยหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงหลังจากบริษัทเน็กซ์ พีแอลซี เปิดเผยผลประกอบการที่ย่ำแย่ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า ดัชนีภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนมีการขยายตัวได้ดีในเดือนธ.ค. 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 365.26 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,584.31 จุด เพิ่มขึ้น 0.07 จุด หรือ +0.00% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,899.40 จุด เพิ่มขึ้น 0.07 จุด หรือ +0.00% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,189.74 จุด เพิ่มขึ้น 11.85 จุด หรือ +0.17%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้น เมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) โดยดัชนี FTSE 100 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดต่อเนื่อง 5 วันทำการ ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้นกลุ่มบริษัทสร้างบ้าน

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเพิ่มขึ้น 11.85 จุด หรือ 0.17% แตะที่ 7,189.74 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวก คืนนี้ (4 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลง รวมทั้งความหวังที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะร่วมมือกันปรับลดกำลังการผลิตในปีนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 53.26 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 99 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 56.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) โดยได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งช่วยหนุนสัญญาทองคำปิดในแดนบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 3.3 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ระดับ 1,165.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 14.3 เซนต์ หรือ 0.87% ปิดที่ 16.552 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 947.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 28.90 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 736.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ แม้รายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วขึ้น เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นการคลังของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ  1.0463 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0410 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2309 ดอลลาร์จากระดับ 1.2235 ดอลลาร์ และออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ  0.7264 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7222 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 117.56 เยน จากระดับ 117.65 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0232 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0275 ฟรังก์สวิส

Back to top button