
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 ม.ค.60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทำสถิติปิดที่เหนือระดับ 20,000 จุด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหุ้นนิวยอร์ก ในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ NASDAQ ต่างก็ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยตลาดได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐจะออกมาตรการที่เอื้ออำนวยต่อภาคธุรกิจและการจ้างงาน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทโบอิ้ง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,068.51 จุด พุ่งขึ้น 155.80 จุด หรือ +0.78% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,656.34 จุด เพิ่มขึ้น 55.38 จุด หรือ +0.99% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,298.37 จุด เพิ่มขึ้น 18.30 จุด หรือ +0.80%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดทะยานขึ้น เมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้น หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นทะลุแนวต้านที่ระดับ 20,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหุ้นนิวยอร์ก
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.3% ปิดที่ 366.59 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2558
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,806.05 จุด เพิ่มขึ้น 211.11 จุด หรือ +1.82% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,877.67 จุด เพิ่มขึ้น 47.64 จุด หรือ +0.99% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,164.43 จุด เพิ่มขึ้น 14.09 จุด หรือ +0.20%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวก ครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการเมื่อวานนี้ (25 ม.ค.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร กลุ่มสุขภาพ และกลุ่มสินค้าบริโภค อย่างไรก็ตาม การที่เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เป็นปัจจัยลบที่สกัดดัชนี FTSE 100 ให้ปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย
ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 14.09 จุด หรือ +0.20% ปิดที่ 7,164.43 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลง เมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด แม้ว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันทั้งในกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกได้พยายามปรับลดกำลังการผลิตก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 43 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 52.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 55.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นทะลุแนวต้านที่ระดับ 20,000 จุด ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 13 ดอลลาร์ หรือ 1.07% ปิดที่ระดับ 1,197.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 20.5 เซนต์ หรือ 1.19% ปิดที่ 16.98 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 26.1 ดอลลาร์ หรือ 2.59% ปิดที่ 981.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ดิ่งลง 59.75 ดอลลาร์ หรือ 7.5% ปิดที่ 736.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) โดยที่นักลงทุนวิตกกังวลว่านโยบายต่างๆของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ นั้น ให้ความสำคัญกับการปกป้องอุตสาหกรรมและแรงงานในประเทศมากเกินไป
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.80 เยน จากระดับ 113.87 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0011 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0014 ฟรังก์สวิส
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0729 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0728 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2623 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2504 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลีย อ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7551 ดอลลาร์จากระดับ 0.7577 ดอลลาร์