
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 ก.พ.60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ เมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงราว 1.5% ซึ่งฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะนโยบายห้ามพลเมืองจาก 7 ชาติมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,052.42 จุด ลดลง 19.04 จุด หรือ -0.09% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,663.55 จุด ลดลง 3.22 จุด หรือ -0.06% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,292.56 จุด ลดลง 4.86 จุด หรือ -0.21%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลง เมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทโฟล์คสวาเกน ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของเยอรมนี หลังจากมีรายงานว่าโฟล์คสวาเกนถูกฟ้องร้องรอบใหม่ ในคดีโกงการตรวจจับไอเสีย นอกจากนี้ การเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และเยอรมนีที่มีกำหนดในปีนี้ ได้สร้างความกังวลต่อนักลงทุนเช่นกัน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.7% ปิดที่ 361.60 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,778.08 จุด ลดลง 47.34 จุด หรือ -0.98% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,509.84 จุด ลดลง 141.65 จุด, -1.22% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,172.15 จุด ลดลง 16.15 จุด, -0.22%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบ เมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) จากแรงเทขายทำกำไรหลังจากดัชนี FTSE 100 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นได้รับแรงหนุนบางส่วนจากหุ้นแรนด์โกลด์ รีซอส หลังจากบริษัทผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ดังกล่าวเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 16.15 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 7,172.15 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบ เมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันในสหรัฐ รายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ถึงการเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 82 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 53.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 55.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น เมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองในสหรัฐได้ผลักดันให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยรายงานล่าสุดระบุว่า นโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่กีดกันพลเมืองจาก 7 ชาติมุสลิมไม่ให้เดินทางเข้าสหรัฐนั้น ได้สร้างความขัดแย้งระหว่างคณะบริหารของทรัมป์ และฝ่ายตุลาการ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 11.3 ดอลลาร์ หรือ 0.93% ปิดที่ระดับ 1,232.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 21.4 เซนต์ หรือ 1.22% ปิดที่ 17.693 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 7.4 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ 1,014.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 25.30 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 774.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) จากปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป โดยเฉพาะฝรั่งเศสซึ่งจะจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนี้
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.0748 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0766 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2479 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2481 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7659 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7675 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.73 เยน จากระดับ 112.97 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9910 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9938 ฟรังก์สวิส