
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 ก.พ.60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ NASDAQ ปิดที่ระดับสูงสุดเช่นกัน ขานรับข่าวที่ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศแผนการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฟื้นตัวขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,172.40 จุด พุ่งขึ้น 118.06 จุด หรือ +0.59% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,715.18 จุด เพิ่มขึ้น 32.73 จุด หรือ +0.58% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,307.87 จุด เพิ่มขึ้น 13.20 จุด หรือ +0.58%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก เมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทโททาล และธนาคารโซซิเอเต เจเนอราล (ซอคเจน) นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับรายงานที่ระบุว่า ยอดเกินดุลการค้าของเยอรมนีพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากการส่งออกฟื้นตัวขึ้น
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.8% ปิดที่ 366.79 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,826.24 จุด เพิ่มขึ้น 59.64 จุด หรือ +1.25% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,642.86 จุด เพิ่มขึ้น 99.48 จุด หรือ +0.86% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,229.50 จุด เพิ่มขึ้น 40.68 จุด หรือ +0.57%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้น ต่อเนื่องเป็นวันที่สามในวันพฤหัสบดี (9 ก.พ.) เพราะได้รับแรงหนุนจากหุ้นบริษัทน้ำมันรายใหญ่อย่าง บีพี ที่พุ่งขึ้นรับข่าวบริษัทเหมืองยักษ์ใหญ่ บีเอชพี บิลลิตัน ไฟเขียวเข้าร่วมลงทุนในโครงการน้ำมันของบีพีในอ่าวเม็กซิโก
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนเพิ่มขึ้น 40.68 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 7,229.50 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวก มื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) โดยสัญญาน้ำมันดิบปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 53.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 55.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลง เมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์, ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์นั้น ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 2.7 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ระดับ 1,236.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 3.6 เซนต์ หรือ 0.20% ปิดที่ 17.741 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 2.8 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 1,022.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 2.80 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 772.55 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) ด้วยปัจจัยหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้เปิดเผยว่า เขาเตรียมจะประกาศแผนการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.20 เยน จากระดับ 112.06 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0011 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9953 ฟรังก์สวิส
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0661 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0688 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2501 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2530 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7629 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7637 ดอลลาร์