KWG ชอบขายฝัน?

ทุกครั้งที่เห็นหุ้นมาด้วยข่าวดีแบบเว่อร์ๆ มักเห็นขาใหญ่เข้ามาไล่ราคาหุ้นเป็นประจำ อาจารย์ถึงไม่อยากเจาะจงลงไปในรายละเอียดว่า มีขาใหญ่คนไหนเข้ามาเกี่ยวข้องกับหุ้นตัวนี้บ้าง เพราะทุกคนชอบโบยความผิดให้เป็นของคนอื่นเป็นประจำนั่นเอง


สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย

 

คุณวิรัตน์ จากดาวคะนอง กรุงเทพฯ พูดถึงสถานการณ์ของหุ้น KWG หรือ บริษัท คิง ไว กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในหมู่นักลงทุนรายย่อย หลังราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงอยากรู้ว่า หุ้นตัวนี้มีอะไรมาขายฝันให้กับแมงเม่า เพราะดูเหมือนว่า การกลับมาครั้งนี้จะยิ่งใหญ่กว่าปกตินะครับ

 

ทุกครั้งที่เห็นหุ้นมาด้วยข่าวดีแบบเว่อร์ๆ มักเห็นขาใหญ่เข้ามาไล่ราคาหุ้นเป็นประจำ อาจารย์ถึงไม่อยากเจาะจงลงไปในรายละเอียดว่า มีขาใหญ่คนไหนเข้ามาเกี่ยวข้องกับหุ้นตัวนี้บ้าง เพราะทุกคนชอบโบยความผิดให้เป็นของคนอื่นเป็นประจำนั่นเอง

เมื่อทุกอย่างไม่เป็นเหมือนกับที่มีการวางแผนไว้ ก็จะเห็นปรากฏการณ์สาดขี้หนักขึ้นเรื่อยๆ อาจารย์ถึงไม่ชอบพูดถึงเหตุการณ์เฉพาะหน้า เพราะเหมือนเป็นการลูบหน้าปะจมูกไปวันๆ ซึ่งไม่ช่วยให้นักลงทุนรายย่อยอ่านเกมหุ้นได้อย่างแตกฉาน

ด้วยเหตุนี้ถึงไม่อยากให้นักลงทุนมองราคาหุ้น KWG หรือ บริษัท คิง ไว กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แบบฉาบฉวย เพราะถ้ามองแบบรวบรัดตัดตอนก็จะเห็นว่า นี่เป็นหุ้นห่านทองคำที่นักลงทุนควรจะซื้อติดพอร์ต หลังแสดงตัวเลขกำไรอย่างมีนัยสำคัญในปีที่ผ่านมา

เมื่อบวกกับการอัดฉีดเม็ดเงินเข้ามาในบริษัทเพิ่มเติม ย่อมทำให้สถานการณ์ของบริษัทดูดีขึ้นเป็นกอง รวมถึงการเบนเข็มทางธุรกิจด้วยการไปทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัว ก็เป็นตัวเร่งให้นักลงทุนกระโจนเข้ามาไล่ราคากันอย่างสนุกสนาน เพราะระดับที่เทรดในเที่ยวนี้อยู่บน P/E 14 เท่าเองครับ

ที่สำคัญคือ งบการเงินด้านล่างแสดงให้เห็นว่า พัฒนาการของบริษัทดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมจริงๆ และตัวเลขกำไรก็มาในจังหวะที่พอเหมาะพอเจาะ ทุกอย่างเลยดูเป็นสีชมพูไปหมดเสียทุกอย่าง

น่าเสียดายที่อาจารย์ชอบอยู่บนความเป็นจริงมากกว่าความฝัน จึงมองหุ้นตัวนี้เป็นเพียงหุ้นเก็งกำไรสั้นๆ ไม่เหมาะต่อการลงทุนระยะยาว เพราะเห็นกันอยู่ทนโท่ว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้เฟื่องฟูเหมือนเมื่อก่อน บวกกับจำนวนหุ้นจดทะเบียนในเที่ยวนี้เพิ่มขึ้นเป็น 924 ล้านหุ้น จากเดิมก่อนหน้านี้มีแค่ 220 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นการบังคับให้ KWG ต้องทำกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่ากันเลยทีเดียว

ตรงนี้แหละที่ทำให้อาจารย์มองว่าน่าจะเป็นการเล่นกับอนาคตมากเกินไป ซึ่งไม่คุ้มค่าเอาเสียเลยหากตัวนักลงทุนเน้นไปที่การซื้อหุ้นระยะกลางถึงระยะยาวนะครับ

กราฟประกอบคอลัมน์ : Aspen, ราคาปิด ณ วันที่ 21 เม.ย.60

Back to top button