
โบรกฯคัด 10 หุ้นเด็ดมีปัจจัยบวก แนะจับตา3ประเด็นหลักประจำวัน
โบรกฯ คัด 10 หุ้นมีประเด็นบวก พร้อมแนะจับตา 3 ประเด็นเด็ดประจำวันนี้ (8 มิ.ย.60)
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (8 มิ.ย.) โดยยังคงมุมมองเป็นกลางถึงลบต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรงกว่า 4-5% เมื่อคืนเนื่องจากสหรัฐรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลง จะเป็นปัจจัยลบกลับมากดดัน Sentiment การลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะเดียวกันเราคาดว่า นักลงทุนจะยังชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนกับ 3 เหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ คือ นายเจมส์ โคมี อดีต ผอ.FBI จะเข้าให้การกับวุฒิสภาสหรัฐต่อประเด็นรัสเซีย ,เลือกตั้งอังกฤษ และประชุม ECB
โดยตลาดจะให้น้ำหนักไปที่ประเด็นแรกมากที่สุดเพราะจะมีผลต่อเนื่องไปถึงตำแหน่ง ประธานาธิบดีของโดนัลทรัมป์ และมีผลต่อนโยบายและเศรษฐกิจของสหรัฐ ภาพรวมการลงทุนจะยังเป็นการเล่นเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางถึงเล็ก โดยเน้นหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/60 จะออกมาดี (MTLS HANA BPP ORI) หุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวนใน SET50/100 รอบใหม่ SET50 (EA BPP MTLS TISCO) และ SET 100 ( WORK GFPT)
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+/-) Fund Flow ต่างชาติพลิกกลับมาเป็นซื้อสุทธิในตลาดหุ้นภูมิภาค แต่ยังขายในกลุ่ม TIP : วานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นภูมิภาค US$ 139 ล้าน โดยซื้อมากที่สุดในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$ 145 ล้าน ส่วนกลุ่ม TIP Fund Flow ต่างชาติยังไหลออก โดยต่างชาติขายสุทธิมากที่สุดในตลาดหุ้นไทย US$ 25 ล้าน ตามด้วยอินโดฯ US$ 14 ล้าน แต่ยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ US$ 17 ล้าน
(-) ราคาน้ำมันดิบร่วงแรง หลังจากสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด : วานนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบ Brent ร่วงแรง โดย WTI ลดลง 2.47$ ปิดที่ 45.72$/bbl ปิดต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ขณะที่ Brent ลดลง 2.06$ ปิดที่ 48.06$/bbl ปิดต่ำสุดในรอบกว่า 6 เดือน เนื่องจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐออกมาเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่ตลาดคาดไว้ โดยสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับนักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล และนับเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 10 สัปดาห์
นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังถูกกดดันหลังจาก EIA คาดการณ์ว่าสหรัฐจะผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า สู่ระดับ 10 ล้านบาร์เรล จาก 9.3 ล้านบาร์เรลในปัจจุบัน
(+/-) ตลาดหุ้นดาวโจนส์ และ ฝั่งยุโรป ยัง Sideway รอความชัดเจนจาก 3 เหตุการณ์ในวันนี้ : ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์แม้จะปรับตัวขึ้นแต่ยังบวกได้ในกรอบจำกัด ขณะที่ฝั่งยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลงแต่ก็ลดลงในกรอบจำกัดเช่นกัน
ทั้งนี้เป็นเพราะนักลงทุนเลือกชะลอการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงและรอดู 3 เหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในวันนี้เริ่มจากการเลือกตั้งของอังกฤษ ,การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของยุโรป (ECB) และ นายเจมโคมี อดีต ผอ. FBI จะเข้าให้การต่อวุฒิสภาสหรัฐ ในประเด็นที่โดนัล ทรัมป์ กดดันเพื่อให้ยุติการสอบสวนกรณีที่รัสเซียเข้าแทรกแทรงการเลือกตั้งของสหรัฐ โดยประเด็นฝั่งยุโรป คือการเลือกตั้งของ อังกฤษ
อีกทั้งการประชุม ECB เราคาดว่าตลาดรับรู้อยู่แล้วจึงไม่น่าจะมีผลกับตลาดมากนัก โดยตลาดจะให้ความสนใจไปที่การให้การของอดีต ผอ.FBI มากกว่าเนื่องจากจะมีผลต่อเนื่องไปยังตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัล ทรัมป์ ซึ่งอาจจะถูกถอดถอน กระทบต่อนโยบายเศรษฐกิจที่เขาหาเสียงไว้ แต่ในทางตรงกันข้ามหากคำให้การของ โคมีย์ ไม่มีน้ำหนักพอจะกลายเป็นปัจจัยบวกกับตลาดทันที