PJW ปรับลดเป้ารายได้ปีนี้เหลือโตไม่เกิน 3% หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า

PJW ปรับลดเป้ารายได้ปีนี้เหลือโตไม่เกิน 3% จากเดิม 3-5% หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า – คาดในปี 61 ได้รับอานิสงส์การฟื้นตัวของอุตฯยานยนต์ หนุนผลการดำเนินงานโตแกร่ง จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์กลุ่มน้ำมันหล่อลื่น


นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตไม่เกิน 3% จากเดิมคาดโตราว 3-5% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,757.32 ล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว โดยมองครึ่งปีหลังนี้น่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกเล็กน้อย หลังจากกำลังซื้อของประชาชนกลับมาพื้นตัว ขณะที่ภาคเอกชนก็น่าจะมีการลงทุนมากขึ้นในช่วงตั้งแต่ไตรมาส 4/60 เป็นต้นไป

นอกจากนั้น ยังเชื่อว่าสถานการณ์ในปี 61 น่าจะดีขึ้นต่อเนื่องจากปลายปีนี้ โดยเชื่อว่าผลการดำเนินงานของบริษัทน่าจะเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์กลุ่มน้ำมันหล่อลื่นที่น่าจะได้รับอานิสงส์การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่จะมีการออกรถยนต์รุ่นใหม่ (New model) รวมถึงกลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์อุปโภคบริโภคและเคมีภัณฑ์ ก็น่าจะปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ

นอกจากนี้ ธุรกิจโรงพ่นสีในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จ.ชลบุรี คาดว่าในปีนี้มีแนวโน้มการขาดทุนลดลง และน่าจะถึงจุดคุ้มทุนได้ในปี 61 เป็นไปตามภาวะอุตสาหกรรมยายนต์ที่ปรับตัวดีขึ้น โดยบริษัทมีการลงทุนในเรื่องของการซื้อเครื่องจักรเพื่อทดแทนเครื่องจักรเก่าเพื่อรองรับออเดอร์ที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีอัตราการใช้กำลังการผลิตราว 70% รวมถึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน

สำหรับโรงงานบรรจุภัณฑ์ที่ประเทศจีน คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ในปลายปีนี้ โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตรายได้จากจีนราว 25% ในปีนี้และปีหน้า ซึ่งในปีนี้ก็ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตในประเทศจีนต่อไป โดยจะทยอยสั่งซื้อเครื่องจักรเพื่อรองรับการเติบโตเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มการทำการตลาดในประเทศจีน โดยได้วางงบลงทุนไว้ที่ 300 ล้านบาท

“ในอนาคตยอดขายของธุรกิจในจีนจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้รวมของบริษัท คาดว่ารายได้จากจีนจะเติบโตต่อปีราว 20-30% ขณะที่โรงพ่นสีก็คาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์น่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นอีกในปีหน้า โดยบริษัทยังคงเน้นการควบคุมต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ดีขึ้น เพื่อทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง และสามารถแข่งขันในตลาดได้ ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ก็น่าจะมีการเติบโตดีขึ้น ตามกำลังซื้อที่จะเข้ามาในช่วงปลายปีเป็นต้นไป” นายวิวรรธน์ กล่าว

Back to top button