“บล.โนมูระฯ”จัดหนักเป้า”GUNKUL” 4.46 บ.ชี้กำไรไตรมาส3โต2เท่าตัว! ทะลุ450ลบ.ทำ“ออลไทม์ไฮ”

“บล.โนมูระฯ” จัดหนักเป้า"GUNKUL" 4.46 บ. ชี้กำไรไตรมาส 3 กระฉูด 2 เท่าตัว ทะลุ 450 ลบ.ทำ “ออลไทม์ไฮ”


บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ก.ย.) โดยคาดว่ากำไรปกติไตรมาส 3/2561 ของ GUNKUL ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ที่ 453.3 ลบ. เพิ่มขึ้นถึง 223% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน, เพิ่มขึ้น 275% จากไตรมาสก่อนจากอานิสงส์บวกโรงไฟฟ้าพลังงานลม 3 แห่ง กำลังรวมผลิต 170MW จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้เต็มระบบและบันทึกเต็มทัง ไตรมาส

ประกอบกับ เป็นช่วง High season ของโรงไฟฟ้าพลังงานลม (แรงลมดีกว่าคาด) ในขณะที่พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) คาดทำได้ในระดับปกติค่อนข้างคงที่ โดยรวมประเมินรายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทน (ลม+ แสงอาทิตย์) โตก้าวกระโดดที่ 960 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 163% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน, เพิ่มขึ้น 80% จากไตรมาสก่อนเป็นรายได้หลัก มีสัดส่วนกว่า 70% ของรายได้รวม

ขณะที่อีก 30% เป็นรายได้จากงานรับเหมาก่อสร้างและซื้อขายอุปกรณ์ไฟฟ้า คาดที่ 507 ล้านบาท ลดลงกว่า 52% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน, ลดลง 8% จากไตรมาสก่อน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายทางการเงินเพิ่มขึ้นที่ระดับ 226 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน, เพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อน สอดคล้องกับ โรงไฟฟ้าที่ทยอย COD เพิ่มขึ้น

สำหรับผลประกอบการของ GUNKUL ผ่านจุดต่ำสุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/2561 และฐานกำไรในครึ่งปีหลังของปี 2561 จะโดดเด่นมากพอที่จะลบล้างผลขาดทุนในไตรมาส 1/2561 (ขาดทุนพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยน 588 ล้านบาท) ได้ ซึ่งหาก นับเฉพาะกำไรปกติในปี 2561 คาดว่าจะสูงถึง 1.37 พันล้านบาท หรือเติบโตกว่า 115% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน นอกจากนี้โครงการ Solar ญี่ปุ่น (SENDAI) กำลังผลิต 32 MW คาดเริ่ม COD เดือน พ.ย.18 ต่อเนื่องด้วย โครงการ Solar Kimitsu กำลังผลิต 38 MW COD ต่อเนื่องในก.พ.19 บันทึกรายได้จากโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ต่อเนื่อง

ประกอบกับ ล่าสุดเข้าซื้อบริษัท ฟิวเจอร์ อีเล็คทริคอล (Backlog 600 ล้านบาท) เป็นผู้เชี่ยวชาญ นำสายไฟลงใต้ดินและวางสายเคเบิลลงใต้นำ เตรียมยื่นประมูลงานเพิ่มอีก 1 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าได้งานราว 3 พันล้านบาท เป็นอีกส่วนที่จะผลักดันรายได้ปี 2562 ให้เติบโต

ทั้งนี้ ปรับกำไรขึ้นเฉลี่ย 40% ราคาเป้าหมายใหม่ 2562 ที่ 4.46 บาท ปรับประมาณการกำไรสุทธิ 2561ขึ้น 55% ขณะที่ 2562 ขึ้น 30% และ 2563 ขึ้น 36% (เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 40%) จากโครงการลมจ่ายไฟดีกว่าคาดและรวมมูลค่าส่วนเพิ่มจาก Solar มาเลเซีย 14.5 MW (0.06 บาท) ที่เซ็นสัญญาเมื่อไตรมาส 1/2561 อิงราคาเป้าหมายปี 2562 ที่ 4.46 บาท (เดิม 4.30) หุ้นซื้อขายบน P/E Ratio ปี 2563  เพียง 13 เท่า ถือว่า Laggard กลุ่มโรงไฟฟ้า และคาดกำไร 2562  เติบโตสูงถึง 106%  จากปีก่อน ซึ่งหากเปรียบเทียบกับ GULF/ EA/ BGRIM ซื้อขายอิง P/E Ratio ปี 2562 ที่ 38เท่า/ 25เท่า / 20 เท่า ทั้งนี้คาดกำไรสุทธิปี 2562 ที่ 1.6 พันล้านบาท (น้อยกว่าตลาด 6%)

 

Back to top button