
AEONTS บวก 3% สวนตลาดฯรับพื้นฐานดี โบรกฯชี้กำไรปีนี้แตะ 3.5 พันลบ.
AEONTS บวก 3% สวนตลาดฯรับพื้นฐานดี โบรกฯชี้กำไรปีนี้แตะ 3.5 พันลบ. โดยราคาปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ 202 บาท บวก 6.50 บาท หรือ 3.32% สูงสุดที่ 203 บาท ต่ำสุดที่ 196 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 256.26 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS ราคาปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ 202 บาท บวก 6.50 บาท หรือ 3.32% สูงสุดที่ 203 บาท ต่ำสุดที่ 196 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 256.26 ล้านบาท
ด้าน บล. ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ มองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้า “ซื้อ” จากพื้นฐานและอนาคตที่ยังดีต่อเนื่อง มูลค่าที่เหมาะสม 217 บาท โดย AEONTS รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2561 อยู่ที่ 862 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 7.1% จากไตรมาสที่แล้ว
ขณะที่ผลประกอบการรวมครึ่งปีแรกปี 2561 อยู่ที่ 1.79 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและคิดเป็น 50.8% จากประมาณการทั้งปีที่ 3.52 พันล้านบาท สำหรับผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนต่อรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 48.44% จากเดิม 46.78% ในไตรมาสก่อนหน้า (แต่ยังต่ำกว่าปีก่อนที่ 50.6%)
ด้านปัจจัยในเชิงบวกสินเชื่อโต 12.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มากกว่าที่คาดการณ์เป็น 7.9 หมื่นล้านบาท โดยสินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 10.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และ 3.6% จากไตรมาสที่แล้วเป็น 4.15 หมื่นล้านบาท ในขณะที่บัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 2.3% จากไตรมาสก่อนเป็น 3.65 หมื่นล้านบาท ส่วนสินเชื่อสุทธิเพิ่มขึ้น 13.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 1.6% จากไตรมาสก่อนเป็น 4.06 พันล้านบาท ตามคาด
สำหรับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(Non-Performing Loan:NPL) เพิ่มขึ้นจาก 2.48% ในไตรมาส 1/61 เป็น 2.67% ในไตรมาส 2/61 ในขณะที่ Coverage ลดลงเป็น 128.6% จากเดิม 133.7% ในไตรมาสก่อน โดยที่ Credit Cost อยู่ที่ 6.30% เทียบกับไตรมาสก่อน 6.25%
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ค่าใช้จ่ายพิเศษมากกว่าคาดจากต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับ Big-C (จากการปล่อยบัตรร่วม) และต้นทุนเกี่ยวข้องกับพนักงาน โดยในปัจจุบัน AEONTS มีแผนที่จะลดจำนวนเคาเตอร์ในต่างจังหวัดที่ไม่มีประสิทธิภาพลง เพื่อลดต้นทุน
อย่างไรก็ตาม ยังคงประมาณการกำไรทั้งปีที่ 3.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น และหนี้เสียที่ลดลงต่อในช่วงไตรมาส 3 ถึงไตรมาส 4 ปี 2561(เนื่องจากปัจจัยทางฤดูกาล)