โบรกฯฝรั่งหั่นเป้า 11 หุ้นไทยชื่อดัง จับตา! ต่างชาติมองภาวะ “ตลาดหมี”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศ ได้ทำการปรับคำแนะนำการลงทุนบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากอาจมองว่าภาวะตลาดหุ้นไทยขณะนี้อยู่ในช่วงขาลง

โดยได้ทำการคัดเลือกบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) ขนาดใหญ่ที่ถูกปรับคำแนะนำ และปรับลดราคาเป้าหมาย เนื่องจากบริษัทเหล่านี้เป็นบริษัทที่มีสัดส่วนของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงนักลงทุนสถาบันถือครองหุ้นอยู่เป็นจำนวนมาก

โดยบริษัทที่ถูกปรับลดคาดการณ์ (Downgrade) คำแนะนำลง มีทั้งหมด 11 บจ. ดังนี้

บริษัทหลักทรัพย์แมคควอรี ปรับคำแนะนำ SPRC จาก Outperform เป็น Neutral ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 11.80 บาท จากเดิม 12 บาท

บริษัท หลักทรัพย์เครดิต สวิส คงคำแนะนำ SCB เป็น Outperform ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 156 บาท จากเดิม 164 บาท

บริษัท หลักทรัพย์เครดิต สวิสคงคำแนะนำ KTB เป็น Underperform ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 16.20 บาท จากเดิม 17 บาท

บริษัท หลักทรัพย์เครดิต สวิส คงคำแนะนำ KTC เป็น Neutral ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 34.50 บาท จากเดิม 34 บาท

บริษัท หลักทรัพย์เครดิต สวิส คงคำแนะนำ KBANK เป็น Neutral  ปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 208 บาท จากเดิม 210 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ภัทร คงคำแนะนำ SC เป็น Neutral ปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 3.4 บาท/หุ้น จากเดิม 3.70 บาท

บริษัทหลักทรัพย์กสิกร ปรับคำแนะนำ CKP จาก Outperform เป็น Neutral คงราคาเป้าหมายไว้ที่ 4.94 บาท/หุ้น

บริษัท หลักทรัพย์เครดิต สวิส คงคำแนะนำ BBL เป็น Outperform  ปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 249 บาท จากเดิม 250 บาท

บริษัท หลักทรัพย์เครดิต สวิส คงคำแนะนำ TISCO  เป็น Outperform  ปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 102 บาท จากเดิม 105 บาท

บริษัท หลักทรัพย์เครดิต สวิส คงคำแนะนำ TCAP  เป็น Neutral  ปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 51 บาท จากเดิม 52 บาท

บริษัท หลักทรัพย์เครดิต สวิส คงคำแนะนำ TMB  เป็น Neutral  ปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 2.3  บาท จากเดิม 2.46  บาท

อย่างไรก็ตาม ในบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่ถูกปรับลดคาดการณ์ลงยังมี 2 บจ.ที่ถูกปรับเพิ่มคาดการณ์ (Upgrade) ดังนี้

บริษัทหลักทรัพย์ เจพี มอร์แกน คงคำแนะนำ TU เป็น Overweight ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 21 บาท จากเดิม 20 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ เจพี มอร์แกน คงคำแนะนำ BH เป็น Overweight ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 226 บาท จากเดิม 220 บาท