PSTC ปักธงรายได้ปี 67 โตแตะ 1.2 หมื่นลบ. รับอานิสงส์ควบรวม BIGGAS-พับแผนส่งเข้าตลาดหุ้น

PSTC ปักธงรายได้ปี 67 โตแตะ 1.2 หมื่นลบ. รับอานิสงส์ควบรวม BIGGAS-พับแผนส่งเข้าตลาดหุ้น


นายภาณุ ศีติสาร ประธานกรรมการ บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้ปี 67 จะเติบโตแตะระดับ 1.2 หมื่นล้านบาท หลังการควบรวมกิจการบริษัท บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด หรือ BIGGAS ด้วยวิธีการแลกหุ้น ส่งผลให้บริษัทถือหุ้นใน BIGGAS เป็น 100% จากปัจจุบันที่ถืออยู่ 51% ขณะที่กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ BIGGAS ก็จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท

พร้อมกันนี้ได้ยกเลิกแผนการนำหุ้น BIGGAS เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากกลางปี 61 ได้ว่าจ้างให้ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เข้ามาเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการทำข้อมูลยื่นแบบไฟลิ่ง ทำให้พบข้อจำกัดหลายประการในการนำ BIGGAS เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

เช่น โครงสร้างธุรกิจที่ยากจะแยกออกมาชัดเจน เนื่องจากอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน มีความใกล้เคียงและเหลื่อมล้ำกันอยู่ ทำให้อาจจะมีประเด็นจำกัดขีดความสามารถซึ่งกันและกัน, การพึ่งพิงรายได้จากการที่ BIGGAS มีแนวโน้มรายได้ที่เติบโตในระยะยาว อาจจะเป็นอุปสรรคทำให้ตลาดมีมุมมองไม่ยินยอมให้ Spin Off, ภาระหนี้สิน และการกู้ยืมเงินของบริษัทย่อย จากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ทำให้บริหารจัดการยาก หากถือหุ้น 51% ไม่ว่าจะโครงสร้างทางการเงิน โครงสร้างเงินกู้

นอกจากนี้ภาวะตลาดการเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในขณะนี้ค่อนข้างชะลอตัวลง และราคาหุ้น IPO ที่ถูกกดราคาลงมาต่ำกว่าค่าเฉลี่ย P/E ของอุตสาหกรรม ถึงจะสามารถขาย IPO ได้หมด หรือมีการรับประกันการจำหน่าย ซึ่งจากที่คำนวณ เดิมบริษัทคาดหวังว่าจะสามารถระดมทุนได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่เมื่อตลาด IPO ไม่เอื้อ อาจจะทำให้ได้เงินจากการระดมทุนต่ำกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งไม่คุ้มกับการที่ต้องลดสัดส่วนการถือหุ้นลงไป

อีกทั้งยังมองว่าการเกิดผลิตภัณฑ์ 2 ผลิตภัณฑ์ ที่มีโครงสร้างการบริหารที่ใกล้เคียงกัน อาจจะส่งผลให้นักลงทุนย้ายไปถือหุ้นที่มีแนวโน้มอุตสาหกรรมที่เติบโตชัดเจน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ซ้ำซ้อน ไม่ว่าค่าเบี้ยประชุมกรรมการ ค่าผู้สอบ ค่าการจัดการบริหารงานในการเป็นบริษัทจดทะเบียน ทำให้เสียค่าใช้จ่ายสิ้นเปลือง ซึ่งหากประหยัดได้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น และการไม่แข่งขันกันเองในอนาคต ซึ่งยากที่จะควบคุม เนื่องจากธุรกิจทั้งสองบริษัทอยู่ในเรื่องพลังงานที่เกี่ยวเนื่องกัน การเกิดความร่วมมือกับพันธมิตรของแต่ละฝ่ายอาจจะมีข้อจำกัด และส่งผลเสียต่อกันและกัน

ดังนั้น เพื่อลดปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ของกันและกัน และมองเห็นถึงการสร้างความเจริญเติบโตแบบยั่งยืนให้กับบริษัทในระยะยาว บริษัทจึงเห็นร่วมกันกับผู้ถือหุ้น BIGGAS ว่า ควรที่ทำการควบรวมกัน โดยการทำ Share Swap ซึ่งน่าจะเป็นการทำให้กิจการขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ในทุกมิติ และไม่ขัดแย้งกันเอง เป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นอย่างแท้จริง

Back to top button