GUNKUL ตุน Backlog หนา รับรู้ปีนี้ 3 พันลบ. เปิดแผนลุยประมูลงาน “กฟผ.-กฟน.-กฟภ.”

GUNKUL เตรียมเข้าประมูลงาน "กฟผ.-กฟน.-กฟภ." มูลค่างานกว่า 2 หมื่นล้านบาท คาดการณ์ว่าได้รับงานไม่ต่ำกว่า 15% ขณะที่บริษัทตั้งเป้ากวาดงานใหม่เข้ามาในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยขณะนี้บริษัทฯ มี Backlog อยู่ที่ 9.63 พันล้านบาท คาดการณ์ว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 2.8 ถึง 3 พันล้านบาท


นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทเตรียมเข้าประมูลงาน โดยอยู่ระหว่างการติดตามจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. และการไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. ซึ่งเป็นงานประมูลรับเหมาวิศวกรรมและระบบ (EPC) มูลค่างานกว่า 2 หมื่นล้านบาท คาดการณ์ว่าได้รับงานไม่ต่ำกว่า 15% ขณะที่บริษัทตั้งเป้ากวาดงานใหม่เข้ามาในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 9.63 พันล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 2.8 ถึง 3 พันล้านบาท

สำหรับการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าในปี 2564 บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมเข้าไปลงทุนโซลาร์ฟาร์ม และโรงไฟฟ้าพลังงานลมทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยในต่างประเทศจะเน้นไปที่เวียดนาม ซึ่งได้มีการศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมราว 400 ถึง 500 เมกะวัตต์ และในประเทศไทยศึกษาโครงการโซลาร์ฟาร์มและโรงไฟฟ้าพลังงานลม ราว 100 เมกาวัตต์ โดยที่ในปีนี้บริษัทจะลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตเข้ามาอีกไม่ต่ำกว่า 100-150 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมที่เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 629 เมกะวัตต์ และตั้งเป้ามีโรงไฟฟ้าที่ COD ทั้งหมดในปี 66 ที่ 1,000 เมกะวัตต์

โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 บริษัทมั่นใจว่าจะเติบโตสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จากกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าใหม่ที่เริ่ม COD เข้ามาเพิ่มมากขึ้นกว่าปีก่อน แม้ว่าในช่วงไตรมาส 2 โดยปกติจะเป็นช่วงที่โรงไฟฟ้าพลังงานลมมีการผลิตไฟฟ้าน้อย ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลก็ตาม และมั่นใจว่าในช่วงครึ่งปีหลังผลการดำเนินงานจะเติบโตโดดเด่นมากกว่าครึ่งปีแรก เพราะโครงการพลังงานลมจะเริ่มกลับมาผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้นตั้งไตรมาส 3 เป็นต้นไป และจะมีการส่งมอบงาน EPC มากขึ้น ผลงานในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเห็นการเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด และทำให้รายได้ของบริษัทในปีนี้ทำได้ตามเป้าหมายที่ 1 หมื่นล้านบาท

ด้านความคืบหน้าการลงทุนในธุรกิจกัญชง คาดการณ์ว่าโรงงานสกัดกัญชงจะสามารถเริ่มเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ได้เร็วกว่ากำหนดภายในเดือน กุมภาพันธ์ 2565 มาเป็นช่วงไตรมาส 4/2564 หลังจากคาดการณ์ว่าจะเริ่มมีผลผลิตกัญชงทยอยเข้ามาจากโรงปลูกพื้นที่ 200 ไร่ในช่วงไตรมาส 4/2564 ซึ่งจะทำให้โรงงานสกัดกัญชงสามารถเริ่มเดินเครื่องได้ กำลังผลิตช่วงแรกที่ 100 กิโลกรัมต่อวัน และตั้งเป้าทยอยเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นไปเป็น 1,100 กิโลกรัมต่อวัน ภายในไตรมาส 3/2565

“บริษัทอยู่ระหว่างการประเมินรายได้ที่มาจากธุรกิจกัญชง เนื่องจากจะต้องดูว่าราคาผลิตภัณฑ์ใดมีราคาที่ดี และมีความต้องการใช้มาก ซึ่งบริษัทจะมีการนำมาพิจารณาปรับระบบการผลิตให้มีความเหมาะสม โดยธุรกิจกัญชงตั้งงบลงทุนไว้ที่ 2 พันล้านบาท” นายสมบูรณ์ กล่าว

ขณะที่บริษัทตั้งงบการลงทุนรวมในช่วง 3 ปี (ปี 2564 ถึง 2566) ไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท หรือใช้ลงทุนปีละ 7 พันล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นการใช้ลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้า 1.7 หมื่นล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าอีก 400 ถึง 500 เมกาวัตต์ และอีก 3 พันล้านบาท จะใช้การลงทุนคลังสินค้าตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit) อีก 10 แห่ง โดยไม่รวมเงินลงทุนในธุรกิจกัญชง

 

Back to top button