สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 ส.ค. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 ส.ค. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) โดยดาวโจนส์ และ S&P500 ต่างก็ปิดทำนิวไฮ ขานรับข่าววุฒิสภาสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการสร้างงานในสหรัฐ โดยข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค และหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจซึ่งรวมถึงหุ้นสายการบินและธุรกิจเรือสำราญ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,264.67 จุด เพิ่มขึ้น 162.82 จุด หรือ +0.46% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,436.75 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด หรือ +0.10% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,788.09 จุด ลดลง 72.09 จุด หรือ -0.49%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยบวกขึ้นเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนได้พากันเข้าซื้อหุ้นขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 472.32 จุด เพิ่มขึ้น 1.64 จุด หรือ +0.35%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,820.21 จุด เพิ่มขึ้น 7.03 จุด หรือ +0.10%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,770.71 จุด เพิ่มขึ้น 25.30 จุด หรือ +0.16% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,161.04 จุด เพิ่มขึ้น 28.74 จุด หรือ +0.40%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคอังกฤษที่ปรับตัวดีขึ้น และการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ช่วยหนุนตลาดด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,161.04 จุด เพิ่มขึ้น 28.74 จุด หรือ +0.40%

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อหลังจากราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.20 ดอลลาร์ หรือ 0.30% ปิดที่ 1,731.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 12.30 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 23.392 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 16.10 ดอลลาร์ หรือ 1.66% ปิดที่ 987 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 47.90 ดอลลาร์ หรือ 1.80% ปิดที่ 2,650 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) โดยตลาดได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งข่าววุฒิสภาสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

ทั้งนี้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.81 ดอลลาร์ หรือ 2.70% ปิดที่ 68.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.59 ดอลลาร์ หรือ 2.30% ปิดที่ 70.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะเป็นปัจจัยผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.12% แตะที่ 93.0569 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.57 เยน จากระดับ 110.28 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9228 ฟรังก์ จากระดับ 0.9200 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2526 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2572 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1721 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1741 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3839 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3852 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7349 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7335 ดอลลาร์

Back to top button