SENA เทคโอเวอร์ JSP.!?

SENA จัดเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็ก ซึ่งที่ผ่านมาก็โดนโควิดเล่นงานจนต้องปรับเป้ายอดขายในปีนี้ใหม่ เหลือแค่ 7,111 ล้านบาท


ถ้าพูดถึงบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA จัดเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็กที่โตมาจากแนวราบ และคอนโดฯ แบบโลว์ไรส์ ซึ่งที่ผ่านมาก็โดนโควิดเล่นงานซะสะบักสะบอม จนต้องปรับเป้ายอดขายในปีนี้ใหม่ เหลือแค่ 7,111 ล้านบาท ส่วนยอดโอนปรับลดลงเหลือ 6,943 ล้านบาท…

ขณะที่ SENA เองก็มีข้อจำกัด อาจไม่มีที่ดินแลนด์แบงก์อยู่ในมือ ครั้นจะไปหาซื้อที่ดินใหม่ ก็อาจไปแข่งด้านราคาสู้กับรายใหญ่ลำบาก และการจะไปพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ก็อาจไม่ถนัด…

เลยเป็นที่มาของการปรับกระบวนทัพใหม่..!!

จากเดิมสร้างโครงการแล้วขาย แต่หลัง ๆ มาชัดเจน รุกไปซื้อโครงการเก่าที่ไปต่อไม่ไหว หรือโครงการที่ทำเลดี ๆ แต่เจ้าของเดิมไม่มีเงินทุนสร้างต่อ เอามารีโนเวท ปั้นใหม่แล้วขายแทน..!!

อย่างน้อย 1) SENA มีแบรนด์เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว 2) ไม่ต้องไปเริ่มจากศูนย์ สร้างใหม่ให้เสียเวลา และ 3) เป็นจังหวะในการซื้อของถูก

นี่ก็ได้ข่าวว่า ไปซื้อโครงการเก่ามาแล้ว 3 ทำเล ประกอบด้วย 1. ย่านรัตนาธิเบศร์ 2. ย่านเจริญนคร 3. ย่านบางซื่อ-เตาปูน โดยทั้ง 3 โครงการ จะพัฒนาภายใต้แบรนด์ใหม่ “เฟล็กซี่ (FLEXI)” เพื่อจับตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Y & Gen Z

ไม่นับรวมที่อยู่ระหว่างการเจรจาอีกไม่น้อยกว่า 3-4 โครงการ มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท อีกนะเนี่ย โดยคาดจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้

นอกจากนี้ SENA ยังปรับทัพไปลงทุนในบริษัทอื่น ๆ อีกด้วย…ที่ชัดเจนมากก็เป็นการไปซื้อหุ้นบริษัท เจ. เอส. พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JSP จำนวน 1,014,600,000 หุ้น หรือคิดเป็น 24.16% ที่ราคา 0.50 บาท รวมมูลค่า 507.30 ล้านบาท

เบื้องต้นซื้อไม่ถึง 25%…แต่คีย์เวิร์ด SENA ระบุชัดว่า อยู่ระหว่างการศึกษาการเข้าลงทุนใน JSP เพิ่มเติม ซึ่งจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป”

ก็ชัดเจน SENA จะควบคุม JSP…ซึ่งแนวทางที่เป็นไปได้ 1) JSP ออกหุ้นเพิ่มทุนให้กับ SENA พอเกิน 25% ก็ประกาศเทนเดอร์ และ 2) SENA อาจเก็บหุ้นเพิ่มในกระดานให้ครบ 25% แล้วตั้งโต๊ะเทนเดอร์หุ้นที่เหลือ…

ซึ่งถ้าให้เดาใจ JSP อาจเลือกใช้วิธีเพิ่มทุนก็ได้นะ…เพื่อนำเงินที่ได้จาก SENA ไปเพิ่มสภาพคล่อง ขยายการลงทุน…

โอเค…การเข้าลงทุนใน JSP ของ SENA ครั้งนี้ สามารถ Synergy ธุรกิจร่วมกันได้…อันนี้ไม่เถียง

แต่ก็น่าคิด ถ้าไปส่องดูผลประกอบการของ JSP ในช่วงที่ผ่านมายังลุ่ม ๆ ดอน ๆ ต้องบอกว่าขาดทุนซะเป็นส่วนใหญ่…โดย ณ วันที่ 30 ก.ย. 2564 มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 50.54 ล้านบาท แต่มีส่วนของหนี้สินระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีสูงถึง 1,399.07 ล้านบาท แถมมีขาดทุนสะสมยังไม่ได้จัดสรรปาไป 691.91 ล้านบาท

แล้ว SENA จะเอา JSP ไปทำอิหยัง..!?

เอ๊ะ…หรือ JSP มีดีอะไรซ่อนอยู่ที่ SENA ใช้ตาทิพย์มองเห็น…แต่เรามองไม่เห็นป่ะเนี่ย…

แหม๊…ชักอยากรู้แล้วสิว่า SENA จะเดินเกมรวบหัวรวบหาง JSP เมื่อไหร่..?

สงสัยต้องแอบไปกระซิบถาม ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ แล้วล่ะ..!?

…อิ อิ อิ…

X
Back to top button