JMT จ่อเข้า MSCI รอบใหม่! มั่นใจผลงานปีนี้นิวไฮต่อ วางงบ 1 หมื่นลบ. รอรับ NPL ทะลัก

JMT จ่อเข้า MSCI รอบใหม่! มั่นใจผลงานปีนี้นิวไฮต่อ ตั้ง JV ร่วม KBANK เสร็จ Q2 พร้อมเดินหน้าเจรจา “แบงก์” เพิ่มเสริมหนี้ในพอร์ตจากปัจจุบัน 2.3 แสนลบ. วางงบ 1 หมื่นล้าน รอรับ NPL ทะลักปลายปีนี้


นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 25 เมษายน 2565 โดยมีประเด็นสำคัญคือ

JMT จ่อเข้า MSCI รอบใหม่

จากกรณีบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า MSCI Update วันที่ 12 พฤษภาคมนี้  MSCI จะประกาศหุ้นเข้าคำนวณ MSCI รอบใหม่มีผลราคาปิด 31 พ.ค.2565 โดยเบื้องต้นคาดว่ามีหุ้นไทยเข้า MSCI Global Standard Index จำนวน 2 บริษัท

โดยหนึ่งในนั้นคาดว่า JMT จะถูกเข้าคำนวณรอบนี้ และมีลุ้นเข้าคำนวณในดัชนี SET50 รอบใหม่ ขณะเดียวกันได้ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 100 บาท จากเดิม 75 บาท  ซึ่งถือเป็นเป็นการปรับเพิ่มประมาณการก่อนประกาศงบไตรมาส 1/2565 เพื่อสะท้อนความคาดหวังแนวโน้มผลประกอบการที่ดี

แนวโน้มผลประกอบการปี 65 โตต่อเนื่อง ตามโบรกเกอร์ปรับประมาณกำไร-ราคาเป้าหมายหรือไม่

สำหรับผลประกอบการปีนี้คาดเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน โดยปีนี้บริษัทมีความพร้อมด้านเงินลงทุน และสัญญาณของหนี้ในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 มีความชัดเจนมากกว่าปีที่แล้ว ส่วนผลประกอบการไตรมาส 4/2564 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมากำไรเติบโตสูง เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทางบริษัทได้รับรู้รายได้น้อยเกินไปจากประมาณการกระแสเงินสดที่เก็บได้จริง

ดังนั้นในช่วงสิ้นปีจึงได้นำมาคำนวณใหม่และทำการบันทึกเพื่อให้รายได้ใกล้เคียงความเป็นจริง ซึ่งถือเป็นไปตามนโยบายที่บริษัทกำหนดส่งผลให้ไตรมาส 4 ผลงานจึงสูงกว่าไตรมาสอื่นๆ ดังนั้นสมมุติผลงานไตรมาส 1/65 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2564 ลดลงก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

โดยอย่างไรก็ตามเบื้องต้นคาดว่าจะมีการการประชุมคณะกรรมการเพื่อรับรองงบไตรมาส 1/2565 ประมาณต้นเดือนพฤษภาคมนี้ โดยแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/2565 เทียบช่วงปีก่อนไม่ต่างกัน แต่ปีนี้มีสัญญาณดีคือลูกค้าเริ่มใช้เงินมากขึ้น และหลังจากที่พักชำระหนี้และเริ่มกลับมามีงานทำและกลับมาชำระหนี้ ตรงนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีในระยะยาวสำหรับบริษัทและเศรษฐกิจไทย

แผนซื้อหนี้บริหาร 1 หมื่นล้านบาท เดินหน้าตามแผนไว้หรือไม่

สำหรับแผนเงินทุนไปซื้อหนี้มาบริหารวางเป้าอยู่ 1 หมื่นล้านบาท โดยยังดำเนินไปตามแผน ส่วนจะมีเพิ่มเติมหรือไม่ต้องรอดูสถานการณ์แนวโน้มหนี้จากนี้ไปจนถึงสิ้นปีนี้ หากเจอกองหนี้ใหญ่ๆก็พร้อมที่จะทำดีล ส่วนสถานการณ์ภาพรวมกองหนี้บริหาร JMT ปัจจุบันอยู่ที่ 2.3 แสนล้านบาท โดยตัดต้นทุนไปแล้วราว 4.9 หมื่นล้านบาท

ตั้งบริษัทร่วมทุน KBANK คาดแล้วเสร็จไตรมาส 2 เริ่มรับรู้รายได้ไตรมาส 3/65

ส่วนความคืบหน้าร่วมทุนกับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (JV)  คาดเสร็จสิ้นในไตรมาส 2/2565 และคาดว่าจะสามารถดำเนินการและรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/2565 เป็นต้นไป โดยปีนี้อาจรับรู้ไม่เต็มปี ส่วนปี 2566 จะส่งผลให้เห็นอย่างชัดเจน ขณะที่ในส่วนของบริษัทร่วมทุนกับ KBANK ตามหลักของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กำหนดให้ให้จัดตั้งบริษัทถือหุ้นสัดส่วน 50:50 ดังนั้นส่วนแบ่งกำไรขาดทุนก็บันทึกตามสัดส่วน

ครึ่งปีหลัง 2565 เล็ง JV แบงก์เพิ่มเสริมหนี้ในพอร์ต

ส่วนการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนร่วมกับ KBANK มีความชัดเจนแล้ว คาดว่าในช่วงไตรมาส 3-4 ปีนี้ จะเริ่มเห็นการเจรจาร่วมกับธนาคารพาณิชย์เพิ่มเติม ในการร่วมจัดตั้งกิจการร่วมค้า (JV) เพื่อดำเนินธุรกิจบริหารจัดการหนีที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)

สถานการณ์หนี้ในปี 65 ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีหรือไม่

สำหรับสถานหนี้ปีนี้ทุกคนต้องเตรียมพร้อมเพราะว่าปริมาณหนี้ NPL  ได้ดูถูกพักชำระและให้การช่วยเหลือลูกค้ามาในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา หลังจากเดือนมิถุนายนปีนี้คงจะเริ่มทยอยมีหนี้จากสถานภาพการชำระและคงจะเริ่มเห็นสัญญาณ NPL ชัดเจนมากขึ้นประมาณปลายไตรมาส 3/2565 ก็จะเริ่มเห็นปริมาณของสถาบันการเงินค่อยๆลงมาแต่ละขั้นบันไดดังนั้นในปีนี้จนถึงปีหน้าคาดว่าจะโดดเด่น ส่วนใหญ่จะเป็นหนี้ที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน

ขณะเดียวกันในส่วนบริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และพื้นที่เช่าจะเข้ามาช่วยในเรื่องการบริหารหนี้ในส่วนของการเอาบ้านหรือสินทรัพย์รอการขายเพื่อนำไปบริหารหนี้ให้ โดยเบื้องต้นปริมาณราวๆ 100 กว่าล้านบาท โดยส่วนหนึ่งทาง J นำไปบริหารและร่วมบริหารกับ JMT

ทั้งนี้ต้องจับตาการปรับเพิ่มประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายจากโบรกเกอร์อีกครั้ง หลังจาก JMT ประกาศงบไตรมาส 1/2565 จะออกมา โดยบล.โนมูระคาดกำไรไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ 418 ล้านบาท โต 48% เทียบไตรมาส 1 /2564 อยู่ที่ 283 ล้านบาท และปรับราคาเป้าหมายอยู่ที่ 100 บาท ขณะที่บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) แนะนํา “ซื้อ”  JMT ราคาเหมาะสม 103 บาท ทั้งนี้หากตัวเลขกำไรไตรมาส 1/2565 ออกมาอยู่ที่ 450 ล้านบาทขึ้นไป คาดว่าจะมีการปรับประมาณการกำไรและปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจากโบรกเกอร์ครั้งใหญ่อีกรอบตาม

X
X
Back to top button