STPI แหกกรอบ Module.!

ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ดูเหมือนความเคลื่อนไหวของบริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ STPI ในเชิงธุรกิจค่อนข้างเงียบเป็นเป่าสาก...


ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ดูเหมือนความเคลื่อนไหวของบริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ STPI ในเชิงธุรกิจค่อนข้างเงียบเป็นเป่าสาก…ยกเว้นเมื่อปีก่อนโน้นที่ดอดไปตั้งบริษัทใหม่ชื่อว่า บริษัท แคนนาธอรี่ จำกัด (จัดตั้งวันที่ 22 มิ.ย. 2564) มีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท เพื่อลงทุนในธุรกิจกัญชง…

แต่ก็แค่น้ำจิ้ม ตามกระแสกัญชง–กัญชาฟีเวอร์..!! ซึ่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรออกมาเป็นชิ้นเป็นอัน คงเป็นเพราะกฎหมายกัญชาฯ ยังเป็นลูกผีลูกคนอยู่ล่ะมั้ง..?

กระทั่งล่าสุดมีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง กับกรณีเข้าไปลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลมมอนสูน (MONSOON) ขนาด 600 เมกะวัตต์ ของบริษัท Monsoon Wind Power Company Limited (MWPCL) ในสปป.ลาว ซึ่งประกอบกิจการผลิตและขายไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าเวียดนาม (Vietnam Electricity) ประเทศเวียดนาม

โดยเป็นการซื้อหุ้นในบริษัท Impact Monsoon Holdings Limited (IMH) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อมใน MWPCL จาก Earth Power Investment Ltd., สัดส่วน 15.87% มูลค่า 44.20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,531.18 ล้านบาท

ก็ถือเป็นสิ่งที่ STPI ไม่เคยมีมาก่อน เนื่องจากธุรกิจหลักของ STPI จะเป็นงานแปรรูปและติดตั้งโครงสร้างเหล็ก (Module) ระบบท่อ โรงงานสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์เหล็กอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน โรงไฟฟ้า โรงกลั่นน้ำมัน โรงแยกก๊าซ โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

เป็นการแตกไลน์ธุรกิจที่ไม่เหมือนเดิม หรือจะเรียกว่าแหกกรอบก็คงไม่ผิดนัก..!!

แต่ถ้าใครจะเถียงว่า STPI ก็มีงานก่อสร้างโรงไฟฟ้านะ ก็อาจจะใช่ แต่คงไม่ใช่ทางของ STPI หรอก…เชื่อสิ

ขณะที่ถ้าดูจากไซส์ซิ่งโรงไฟฟ้าพลังงานลมมอนสูน ซึ่งมีกำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ ถือว่าใหญ่มว๊าก แม้ STPI จะถือหุ้นแค่ 15.87% ซึ่งถ้าคิดตามสัดส่วนการถือหุ้นจะประมาณ 90 เมกะวัตต์ ก็เยอะนะ…โดยคาดว่าจะสร้างกำไรได้ราว 100 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว

ก็น่าสนใจ หากโรงไฟฟ้าแห่งนี้ COD ภายในปี 2568 ได้ตามแผน เมื่อถึงตอนนั้นสัดส่วนรายได้ของ STPI คงเปลี๊ยนไป๋ แต่จะถึงขั้นจาก Module ไปเป็นไฟฟ้าเลยอ๊ะป่าว..? อันนี้ก็ไม่รู้สินะ

แต่ที่รู้ ธุรกิจไฟฟ้าคงไม่ทำให้ผลประกอบการของ STPI ลุ่ม ๆ ดอน ๆ เหมือนในอดีตหรอกมั้ง…โดยในปี 2561 มีรายได้รวม 1,337 ล้านบาท ขาดทุน 629 ล้านบาท ปี 2562 มีรายได้รวม 3,373 ล้านบาท พลิกมามีกำไร 2,089 ล้านบาท ปี 2563 มีรายได้รวม 1,982 ล้านบาท ขาดทุน 836 ล้านบาท ปี 2564 มีรายได้รวม 2,617 ล้านบาท กำไร 320 ล้านบาท

ขณะที่งวด 9 เดือนแรก ปี 2565 มีรายได้รวม 2,781 ล้านบาท ขาดทุน 90 ล้านบาท…

แหม๊…เห็นงบ STPI แล้วหัวใจจะวาย ไม่ต่างจากรถไฟเหาะตีลังกาเลยนะเนี่ย ก็เล่นกำไรปีหนึ่งมาอีกปีขาดทุนซะงั้น…

นั่นเป็นเพราะงาน Module และงานรับเหมาก่อสร้างมีข้อจำกัดตรงที่ 1) มาร์จิ้นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน และ 2) ขึ้นอยู่กับการส่งมอบงาน หากส่งมอบงานช้า ก็จะขาดทุน ทำให้ผลประกอบการค่อนข้างผันแปร…แต่พอได้ธุรกิจไฟฟ้าเข้ามาก็น่าจะทำให้งบของ STPI มีเสถียรภาพมากขึ้น

แต่จะเสถียรแค่ไหน..? เรื่องนี้ต้องดูทิศทางลมด้วยนะ..!?

…อิ อิ อิ…

X
X
Back to top button