SUPER โกยรายได้ปี 65 กว่า 9.5 พันล้าน แผนปีนี้รุก “คาร์บอนเครดิต” ปักธงโต 10%

SUPER ลั่นปี 66 เดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบ ต่อยอดธุรกิจโรงไฟฟ้าสร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมเข้าสู่ธุรกิจจัดหาใบรับรองสิทธิการผลิตพลังงานหมุนเวียน และคาร์บอนเครดิต ปักหมุดรายได้ปี 66 เติบโต 10%


นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2565 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565) มีรายได้รวมอยู่ที่ 9,571.41 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 732.54 ล้านบาท จากปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น ทั้งโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย และในประเทศเวียดนาม จากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ค่าความเข้มแสงเพิ่มขึ้น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม HBRE Chu Prong Wind Power Farm กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ที่รับรู้รายได้เต็มปี จากจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้กับการไฟฟ้าเวียดนาม

นอกจากนี้บริษัทยังมีการรับรู้รายได้จากโครงการพลังงานความร้อนจากขยะ โครงการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชนแบบครบวงจร จังหวัดหนองคาย กำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ ที่เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในช่วงปลายปี 2565

นายจอมทรัพย์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญในการขยายงานโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตต่อเนื่อง บริษัทฯวางเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1,000 เมกะวัตต์ ในปี 2568 อยู่ที่ 2,600 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันกำลังการผลิต 1,608.32 เมกะวัตต์ และมีรายได้อยู่ที่ 13,000 ล้านบาท จากปี 2566 ตั้งเป้าไว้ 10,000 – 11,000 ล้านบาท หรือเติบโต10% จากปีก่อน

รวมถึงต่อยอดจากธุรกิจโรงไฟฟ้าเพื่อสร้างงมูลค่าเพิ่ม โดยการเข้าสู่ธุรกิจจัดหาใบรับรองสิทธิการผลิตพลังงานหมุนเวียน และคารบ์อนเครดิต มุ่งเน้นการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง รวมถึงการนำนวัตกรรมมาพัฒนาธุรกิจให้ตอบสนองต่อรูปแบบการใช้พลังงานในอนาคต เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัท

สำหรับแผนในปี 2566 บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญในการขยายงานโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต พร้อมมองหาโอกาสการลงทุนควบคู่กัน ซึ่ง SUPER มีทั้งโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมทั้งในและต่างประเทศ โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคาร (โซลาร์รูฟท็อป) และโครงการการขยายงานสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน (Private PPA) และโครงการ SPP HYBRID สนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต

Back to top button