
หุ้นยุโรปปิดบวกหลังนักลงทุนเดินหน้าซื้อต่อเนื่อง
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) โดยนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อหุ้นติดต่อกันสองวันทำการ พร้อมกับจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อย่างใกล้ชิด โดยตลาดหุ้นยุโรปได้ปิดทำการซื้อขายก่อนที่เฟดจะแถลงมติการประชุม
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิด (16 ธ.ค.) ที่ 360.43 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,624.67 จุด เพิ่มขึ้น 10.27 จุด หรือ +0.22%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,469.26 จุด เพิ่มขึ้น 18.88 จุด หรือ +0.18% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,061.19 จุด เพิ่มขึ้น 43.40 จุด หรือ +0.72%
นักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับจับตาดูผลการประชุมเฟดซึ่งจะมีการประกาศผลภายหลังจากที่ตลาดปิดทำการไปแล้ว โดยมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในประชุมครั้งนี้ หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ
หุ้นโรลส์-รอยซ์ โฮลดิงส์ พุ่งขึ้น 4.9% หลังจากบริษัทประกาศแผนปรับโครงสร้างด้านการบริหารจัดการ ขณะที่หุ้นเวสตัส วินด์ ซิสเต็มส์ ทะยานขึ้น 4.3% ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าสภาคองเกรสสหรัฐอาจลงมติให้มีการเพิ่มขอบเขตการสนับสนุนพลังงานทดแทน ส่วนหุ้นโฟล์คสวาเกน ร่วงลง 4.12% หลังจากมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมกฎระเบียบด้านรถยนต์ของเยอรมนีได้อนุมัติข้อเสนอของบริษัทในการแก้ไขรถยนต์ดีเซลที่มีการติดตั้งโปรแกรมโกงการตรวจจับมลพิษในไอเสียในเยอรมนีและยุโรป
โบรกเกอร์กล่าวว่า แม้ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวก แต่ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (Eurostat) รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนดีดตัวแตะระดับ 0.2% ในเดือนพ.ย. แต่ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรปที่ 2%
ขณะที่ผลสำรวจมาร์กิต อิโคโนมิคส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนธ.ค. ปรับตัวลดลงแตะ 54.0 ซึ่งเป็นสถิติที่ต่ำที่สุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 54.2 ในเดือนพ.ย.