“เอสซีบีเอกซ์” ไร้ปัญหา ITD ตั้งสำรองไว้แล้ว! โชว์จุดแข็งปันผลสูง

บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) ยันบมจ.อิตาเลียนไทย (ITD) ยังมีสถานะลูกหนี้ “ปกติ” และตั้งสำรองไว้แล้ว พร้อมคงแผนการจ่ายเงินปันผลระดับสูงตามทิศทางกำไรปี 67 เติบโตต่อเนื่อง มั่นใจไม่กระทบแผนธุรกิจ ส่วนความคืบหน้าแบงก์ไร้สาขาอยู่ระหว่างการทำโมเดลธุรกิจ ขณะที่แบงก์ไทยพาณิชย์อยู่ระหว่างพิจารณาทำ JV AMC


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ได้จัดประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 5 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 2,300 ราย จำนวน 2,484,950,325 หุ้น คิดเป็น 73.8007% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดที่ 3,367,107,286 หุ้น การประชุมผู้ถือหุ้นครั้งนี้มี 6 วาระด้วยกัน โดยมีดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการ และประธานกรรมการกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เป็นประธานในการประชุมฯ

ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการ และประธานกรรมการกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า เรื่องของส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ในภาวะดอกเบี้ยขาลง คาดการณ์ค่อนข้างลำบาก ขึ้นอยู่กับแนวโน้มดอกเบี้ยและสภาพคล่องในตลาดเป็นหลัก ส่วนเรื่องของอัตราผลตอบแทนเงินปันผล ยังคงให้ความสำคัญกับนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างเหมาะสมกับการที่เข้ามาลงทุน หากบริษัทมีกำไรมากก็จะจ่ายในสัดส่วนที่มากเช่นกัน ขึ้นกับสถานการณ์นั้น ๆ เป็นหลัก ขณะที่บริษัทมีความแข็งแกร่งพอสมควร

ทั้งนี้ ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีการอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 10.34 บาท รวมเป็นเงิน 34,816 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 80% ของกำไรสุทธิสำหรับปี 2566 ตามงบการเงินรวม ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วในอัตราหุ้นละ 2.50 บาท ครั้งนี้จึงจะจ่ายเงินปันผลส่วนที่เหลืออีกหุ้นละ 7.84 บาท รวมเป็นเงิน 26,398 ล้านบาท ในวันที่ 3 พ.ค. 2567 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 17 เม.ย. 2567

ด้านนายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า กรณีของลูกหนี้บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้มีการตั้งสำรองหนี้ในส่วนนี้ในลักษณะป้องกันความเสี่ยงที่มองไปในระยะข้างหน้าแล้ว อย่างไรก็ตาม ITD ยังไม่ได้อยู่ในสถานะ NPL หากในระยะถัดไป ITD มีสถานะที่เปลี่ยนไป ธนาคารได้เตรียมความพร้อมไว้อยู่แล้ว ส่วนการตั้งสำรองหนี้เพียงพอในการรองรับได้ในระดับหนึ่ง

“ไม่ว่าจะเป็นลูกหนี้รายใหญ่ทั้งรายบุคคลและรายบริษัท ยืนยันว่าไม่กระทบต่อตัวธนาคาร ขณะนี้กลุ่มลูกหนี้ดังกล่าว ในส่วนของการตั้งสำรองยังปกติ ลูกหนี้ก็ยังปกติไม่มีอะไรเป็นพิเศษ” นายอาทิตย์ กล่าว

ส่วนความคืบหน้าธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) บริษัทยังไม่ได้ยื่นขอใบอนุญาติในการขอจัดตั้งกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หลังจากที่บริษัทประกาศเปิดตัวพันธมิตรในการร่วมทีมสองรายไปแล้วก็ตาม เนื่องจากธปท.มีระยะเวลาในการให้ยื่นขอจัดตั้งฯ ถึงเดือน ก.ย. 2567 SCB จึงอยู่ระหว่างทำแผนงานต่าง ๆ อย่างละเอียด คาดว่าจะใช้ระยะเวลาอีกระยะหนึ่ง

สาเหตุหลักในการทำ Virtual Bank เพื่อต้องการเข้าถึงกลุ่มคนที่ยังเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนในต้นทุนต่ำ และการมีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยี ทำให้ Virtual Bank สามารถตอบโจทย์เป้าหมายของ SCB ได้

“หลังจาก SCB ได้เข้าซื้อ Home Credit Vietnam Finance Company Limited (HCV) ด้วยมูลค่าลงทุนประมาณ 31,000 ล้านบาท คาดว่าโดยธุรกรรมนี้ต้องได้รับอนุมัติจากหน่วยงานกํากับดูแล พร้อมกับดําเนินการแล้วเสร็จภายในครึ่งปีแรก 2568 จากธุรกรรมดังกล่าว ในปีนี้ SCB ยังไม่มีแผนซื้อธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มเติม” นายอาทิตย์ กล่าว

นายอาทิตย์ กล่าวอีกว่า การจ่ายเงินปันผลในระดับสูงให้กับผู้ถือหุ้น ไม่กระทบเงินทุนในการขยายธุรกิจแน่นอน สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้ บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับคอนซูมเมอร์แลนดิ้งและดิจิทัลแลนดิ้ง ส่วนธนาคารไทยพาณิชย์ยังคงเป็นธุรกิจหลักในการสร้างรายได้ให้กับกลุ่ม SCB และมั่นใจว่าปีนี้สินเชื่อผู้บริโภครวมถึงสินเชื่อดิจิทัล (Gen 2) จะสามารถสร้างกำไรในปี 2567 นำโดยธุรกิจบริษัท คาร์ด เอกซ์ จำกัด (CARD X) ด้วยการมุ่งเน้นการขยายสินเชื่อพร้อมกับปรับปรุงประสิทธิภาพการติดตามหนี้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ฯ

ขณะที่ บริษัท ออโต้ เอกซ์ จำกัด (AUTO X) เน้นการขยายสินเชื่อและพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อ รวมถึงประกันภัยผ่านช่องทางสาขา พร้อมด้วย Gen 3 คือแพลตฟอร์ม Robinhood ช่วยสร้างรายได้ให้กับกลุ่มฯ ในปีนี้

ด้านเป้าหมายตัวเลขทางธุรกิจปี 2567 SBC ตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อที่ 3-5% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ตั้งเป้า 3.7-3.9% ด้านรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิตั้งเป้าเติบโตที่ระดับ Low-mid single digit ส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ที่ตั้งเป้าหมายที่ 43-45% ขณะที่อัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อ (NPL) ตั้งเป้าหมายไว้ที่ระดับ 1.60-1.80% ทั้งนี้เป้าหมายดังกล่าวเป็นการคาดการณ์ของบริษัทในเบื้องต้น อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับสภาพการดำเนินธุรกิจที่อาจไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ หากสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคารอยู่ระหว่างพิจารณาเรื่องการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนบริหารสินทรัพย์ (JV AMC) เพื่อบริหารหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ซึ่งในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเตรียมการ

Back to top button