
ธปท.มองศก.ไทยฟื้นแบบค่อยเป็นค่อยไป จากการบริโภค-ลงทุน-ท่องเที่ยว
ธปท.มองศก.ไทยฟื้นแบบค่อยเป็นค่อยไป จากการบริโภค-ลงทุน-ท่องเที่ยว
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ในปีนี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และยังมีความเสี่ยงในการขยายตัวด้านต่ำอยู่ค่อนข้างมาก ขณะที่แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีนี้จะมาจากปัจจัยในประเทศเป็นหลัก ทั้งการบริโภค การลงทุนภาคเอกชนและภาครัฐ ขณะที่ด้านการต่างประเทศนั้น การท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี แต่การส่งออกน่าจะยังทรงตัว จึงมองว่าการท่องเที่ยวยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีน
ทั้งนี้ ธปท.คาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ที่ 3.5% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขยายตัวได้ราว 2.8% อย่างไรก็ดี แม้ทิศทางเศรษฐกิจของไทยจะอยู่ในช่วงการฟื้นตัว แต่การฟื้นตัวกระจุกตัว และที่น่าเป็นห่วงคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยไม่ได้กระจายไปยังภาคการเกษตร หรือ ภาคเศรษฐกิจในชนบท
เนื่องจากรายได้ของเกษตรกรยังถูกกดดันจากราคาสินค้าเกษตรที่อยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งปัญหาภัยแล้ง ประกอบกับภาระหนี้สินของคนในชนบทอยู่ในระดับสูง จึงมีผลกระทบต่อการใช้จ่ายและความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือน
สำหรับมาตรการของภาครัฐที่จะมีผลต่อเนื่องในระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญ คือ การสนับสนุนโครงการลงทุนที่ช่วยยกระดับศักยภาพของเศรษฐกิจในระยะยาว โดยเฉพาะนโยบายด้านอุปทาน เช่น การสร้างระบบสาธารณูปโภค การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูง การสร้างฐานสำหรับการแข่งขันในระยะยาว การปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรค รวมทั้งการปฏิรูปการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ
“การพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจของไทย มีความสำคัญเหมือนกับการยกเครื่องรถยนต์ที่ค่อนข้างเก่าและอ่อนแรงมาเป็นเวลานาน การเดินทางยังต้องเผชิญถนนที่เป็นหลุมบ่อมากขึ้น เราจึงต้องการรถยนต์ที่มีทั้งโชคอัพ หรือระบบรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ดี และต้องมีเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูง ซึ่งจะทำให้เราเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง”นายวิรไท กล่าว
แม้เศรษฐกิจไทยจะมีความเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลก แต่ภาคการเงินของไทยถือว่าได้รับผลกระทบจากความผันผวนในตลาดเงินตลาดทุนโลกค่อนข้างน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศกำลังพัฒนาแห่งอื่นๆ เนื่องจากไทยมีกันชนหรือมีภูมิคุ้มกันที่ดี โดยเฉพาะฐานะด้านการต่างประเทศที่อยู่ในเกณฑ์ที่เข้มแข้ง
ผู้ว่าฯ ธปท. ระบุว่า ยังไม่ควรชะล่าใจ เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงสูง จากปัจจัยต่างๆ ทั้งนี้ธปท.จะติดตามภาวะเศรษฐกิจการเงินโลกอย่างใกล้ชิดและประมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างรอบด้าน รวมทั้งรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ และเสถียรภาพระบบการเงิน