DUSIT จอมโบ้ย?

กลายเป็นเรื่องราวที่ผู้คนในแวดวงตลาดเงิน และตลาดทุนเม้าท์มอยกันอย่างหนักในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา เพราะการปิดประชุมผู้ถือหุ้นแบบกะทันหันของโรงแรมดังอย่าง DUSIT


กลายเป็นเรื่องราวที่ผู้คนในแวดวงตลาดเงิน และตลาดทุนเมาท์มอยกันอย่างหนักในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา เพราะการปิดประชุมผู้ถือหุ้นแบบกะทันหันของโรงแรมดังอย่าง DUSIT สร้างความงุนงงให้กับสังคมอย่างแรง พร้อมกับข้ออ้างที่พูดถึงระบบประชุมออนไลน์ (E-AGM) เกิดปัญหาขัดข้องบางประการแบบนี้..หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงอย่าง ตลท. กับ ก.ล.ต. ถึงกับเกิดอาการควันออกหูกันเป็นแถวเลยนะจ๊ะ

ตรงนี้แหละที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องออกมาแยกประเด็นให้สังคมเห็นว่า ความวุ่นวายของ DUSIT มีอยู่ด้วยกัน 2 เรื่องคือ 1.ความขัดแย้งกันเองของผู้ถือหุ้นใหญ่ กับ 2.เรื่องระบบประชุมออนไลน์ โดยตัวที่สร้างความไม่พอใจให้กับผู้เกี่ยวข้องมากสุดคือเรื่องหลัง เพราะกลายเป็นแพะรับบาปความขัดแย้งที่เกิดขึ้น และทำให้ผู้คนมากมายอยากรู้ว่า ใครเป็นคนทำระบบประชุมออนไลน์..บริษัทจดทะเบียนอื่น ๆ จะได้ไม่ใช้บริการเจ้าค่ะ

ว่ากันว่า ความโหลยโท่ยของเรื่องดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้น หากไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นภายใน “บ.ชนัตถ์และลูก” ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ในสัดส่วน 49.74% และเรื่องดังกล่าวไม่มีใครรู้ดีเท่ากับคนในตระกูลปิยะอุย เพราะสิ่งที่เขาร่ำลืออย่างหนาหูมันเกี่ยวข้องกับสมบัติเป็นประเด็นหลัก และเหนืออื่นใดก็คือ ตอนนี้ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ใครอยู่ฝั่งไหน? หรือทะเลาะกันด้วยเรื่องเงินสร้างโรงแรมอ๊ะป่าว?

ถามว่าทำไมหลายคนถึงคิดเช่นนั้น! เดี๊ยนตอบได้ทันทีว่า มันเป็นผลมาจากการประชุมวาระที่ 2 ที่ว่าด้วยเรื่องพิจารณาอนุมัติงบการเงินสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 67 พร้อมทั้งรายงานของผู้สอบบัญชี ซึ่งได้ผ่านการตรวจสอบ และลงนามรับรองจากผู้สอบบัญชีของบริษัทก็คือ “บริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย สอบบัญชี จำกัด” หรือ KPMG และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว..แต่ผู้ถือหุ้นใหญ่ดันลงคะแนนไม่เห็นชอบน่ะซี

อีกจุดที่น่าสนใจคือ ตัวแทนกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เข้าประชุมผู้ถือหุ้น และโหวตคว่ำรับรองงบ ดันมีข่าวออกมาในทำนองว่า เขาก็นั่งเป็นกรรมการบริษัทอยู่แล้ว ซึ่งทำให้พวกขาเผือกสับสนกันไปใหญ่ และเห็นพ้องไปในทางเดียวกันว่า การกระทำแบบนี้คงเกี่ยวข้องกับการ “ยื่นหมู ยื่นแมว” อย่างแน่นอน..พร้อมกับยกตัวอย่างให้อีฉันเห็นว่า หากพวกกรรมการทำตามแผนงานของผู้ถือหุ้นใหญ่ กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่จะโหวตผ่านให้ทุกวาระนะตัวเอง

การไม่โหวตผ่านจึงอนุมานได้ว่า “บอร์ด” กับ “ผู้ถือหุ้นใหญ่” อาจมีการขบเกลียวเรื่องสร้างโรงแรมกระมัง! และเรื่องนี้ก็ส่งผลกระทบไปยังซีอีโอที่นั่งกุมบังเหียนอย่าง “ศุภจี” อย่างเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ เพราะน่าจะเป็นคนที่พอรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ขณะเดียวกันจะเห็นว่า “ประธานบอร์ด” อย่างคุณพี่ “อาสา” ก็ควรออกมาแสดงความรับผิดชอบกับผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยเช่นกัน..ชาวหุ้นเขากล่าวไว้ค่ะ

ทั้งหลายทั้งปวงเป็นแค่หนังตัวอย่างที่บรรดาขาเผือกอยากรู้ความจริง! แถมคนในแวดวงบริษัทจดทะเบียนที่ผ่านมาประชุมมานักต่อนักยังพูดไปในทางเดียวกัน ในเมื่อระบบสามารถรันข้อมูลผู้ร่วมประชุมมาตั้งแต่ต้นได้ การลงคะแนนในแต่ละวาระก็น่าจะทำได้สบาย ๆ และหากวาระไหนไม่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ก็สามารถเรียกประชุมใหม่ได้อยู่ดี..จู่ ๆ พวกคุณพี่เล่นชักปลั๊กแบบนี้..เสียลุคนะจะบอกให้

งานนี้ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร? “โมนิก้า” ยินดีรับฟังข้อมูลจากทุฝ่าย แต่ขออย่างเดียวคือ DUSIT อย่าโบ้ย! เพราะบริษัทจดทะเบียนที่มีเกือบพันแห่ง เขาเกิดอาการรับไม่ได้กับข้อแก้ตัวเรื่องระบบล่ม อีฉันในฐานะคนตรงกลางจึงต้องออกมาสะท้อนภาพที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทย หลังฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมองว่า ใครจะขัดแย้งกับใคร..ก็ขัดแย้งกันไป แต่ไม่ควรลากสิ่งที่เขาช่วยกันพัฒนาให้ดีขึ้นมาเป็นเครื่องมือให้ตัวเองได้เปรียบอีกฝ่ายนะคะ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button