นายกฯ แจงเงินหมื่น “วัยรุ่น” ไม่เข้าครม. เหตุรอความเห็นผลกระทบ “ภาษีทรัมป์”

วันนี้ (6 พ.ค.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในการประชุมครม. วันนี้ ยังไม่มีการเสนอโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต สำหรับกลุ่มอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน วงเงิน 27,000 ล้านบาท หรือ ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการรวบรวมความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป

“สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการส่งข้อคิดเห็นเข้ามา ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญและต้องรับฟังอย่างรอบด้าน เราต้องประเมินปัจจัยแวดล้อมอย่างรอบคอบว่า แนวทางใดจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นก็จะรับฟังจากผู้รู้ทุก ๆ หน่วยงาน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

สำหรับกระแสข่าวที่ระบุว่ารัฐบาลอาจยกเลิกโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อรองรับผลกระทบจากภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐอเมริกานั้น นางสาวแพทองธาร ย้ำว่า ยังไม่มีมติใด ๆ ในการยกเลิกโครงการ แต่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็น ซึ่งต้องดำเนินการให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจ

“เงินก้อนนี้จะต้องถูกใช้ในแนวทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนทั้งประเทศ เป้าหมายสำคัญคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่สามารถตัดสินใจโดยฝ่ายบริหารฝ่ายเดียวได้ที่ตัดสินใจได้เลย ต้องอาศัยความเห็นจากทุกภาคส่วน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามถึงไทม์ไลน์การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต นางสาวแพทองธาร ยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ทำอยู่คือเรารับฟังความคิดเห็นอยู่

เมื่อถูกถามถึงแนวโน้มเลื่อนการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ออกไป นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม เนื่องจากปัจจัยใหม่อย่างมาตรการภาษี (Tariffs) แทรกเข้ามา ดังนั้นต้องรอก่อนว่า ถ้าความเห็นครบแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ จึงจะกำหนดได้ว่าเลื่อนหรือไม่เลื่อน แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ยังเป็นวันเดิมอยู่ ย้ำต้องรอข้อมูลให้ครบก่อน จะรับปากไปก่อนไม่ได้ เพราะกำลังรอความคิดเห็นอยู่

เมื่อถูกถามว่า ดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า อันนี้ต้องปรับความเข้าใจเพราะว่า มีปัจจัยที่เข้ามาแบบที่ไม่ได้คาดฝัน ทั่วโลกไม่ใช่แค่ประเทศไทย ต้องฟังด้วยเหตุและผลด้วย ซึ่งแน่นอนว่าไม่ว่าจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนอย่างไร ต้องมีคำอธิบายจากรัฐบาลอยู่แล้ว

พร้อมกันนี้ นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกาว่า ในการพูดคุยรายละเอียดยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ติดตามอยู่ตลอด ส่วนรายละเอียดและช่วงเวลาที่จะเปิดเผยข้อมูล ต้องพิจารณาจังหวะและความเหมาะสม

“ล่าสุดจากการหารือกับทีมงานของทางสหรัฐฯ สิ่งที่เพิ่มเติมก็น่าจะครอบคลุมแล้วในสิ่งที่ประเทศไทยจะคุยกับสหรัฐฯ และก็มีกรอบเรื่อง 90 วัน ตอนนี้เมื่อดูความเคลื่อนไหวก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ ของแต่ละประเทศ ในส่วนของมีความคิดใหม่ ๆ ออกมา เรารอดูและปรับกับแผนเราอยู่เรื่อย ๆ อยู่แล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว