PIS พุ่ง 7% รับกำไร Q1 โต 2 เท่าตัว ตุนแบ็กล็อก 5.3 พันลบ. ลุยขยายลูกค้า-คว้างานใหม่

PIS บวก 7% รับกำไรไตรมาส 1/68 โต 200% แตะ 72 ล้านบาท หนุนจากรายได้ธุรกิจแตะ 629 ล้านบาท พร้อมตุนแบ็กล็อกแน่น 5,350 ล้านบาท เดินหน้าคว้าโปรเจกต์ใหม่ ขยายฐานลูกค้าต่อเนื่อง หนุนผลงานปีนี้ All Time High


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (14 พ.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท โปร อินไซด์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIS ณ เวลา 11:31 น. อยู่ที่ระดับ 4.68 บาท บวก 0.38 บาท หรือ 7.31% สูงสุดที่ระดับ 5.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.58 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 18.74 ล้านบาท

นางสาวเบญญาภา เฉลิมวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PIS ผู้ให้บริการ ICT Solution ครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 1/68 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 68) มีรายได้จากธุรกิจหลัก 629 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 146% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 256 ล้านบาท  และมีกำไรสุทธิ 72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 200% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 24 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่มีกว่า 5,350 ล้านบาท รองรับแผนการเติบโตอย่างก้าวกระโดดช่วง 1-3 ปีข้างหน้า ตามแผนงานที่วางไว้ จากการเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ที่เปิดประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

“ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/68 ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง มาจากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ โดยตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาถึงสิ้นเดือนมีนาคม 68 บริษัทฯคว้างานขนาดใหญ่เพิ่ม 3 โครงการ แบ่งเป็น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มูลค่ารวม 4,116 ล้านบาท ร่วมกับพันธมิตร ซึ่งจะรับรู้รายได้ตามสัดส่วนการถือหุ้น สนับสนุนผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตเกิน 15% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น” นางสาวเบญญาภา กล่าว

สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรม ICT ในปี 68 คาดว่าจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากการลงทุนด้าน Digital Infrastructure, Cloud Computing, AI และ Platform ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ภาครัฐ และเอกชนให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโซลูชันที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และลดต้นทุน นโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของภาครัฐไทยจะยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนที่ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรม ICT โดยโครงการโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เมืองอัจฉริยะ (Smart City) และระบบดิจิทัลภาครัฐ คาดว่าจะได้รับการผลักดันต่อเนื่อง

นางสาวเบญญาภา กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯได้วางกลยุทธ์ในการขยายไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการเติบโต รวมถึงพัฒนาโซลูชันที่ช่วยลูกค้าลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น AI-driven Security, Cloud-based Data Management และ IT Outsourcing Services แม้ว่าจะยังคงมีปัจจัยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และการเมืองโลก แต่ด้วยกลยุทธ์เชิงรุกในการพัฒนาเทคโนโลยี การบริหารความเสี่ยง และการขยายฐานลูกค้าใหม่ บริษัทฯเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขัน และเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ อยู่ระหว่างยื่นประมูลงานใหม่ และรอผลประมูลโครงการ ซึ่งมีโอกาสได้งานใหม่มูลค่าระดับพันล้านบาท สนับสนุนงานในมือรอรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น ผลักดันผลการดำเนินงานช่วง 1-3 ปีข้างหน้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด ตามแผนงานที่วางไว้

Back to top button