
RS ร่วงต่อ 15% ผวาแบงก์เรียกหนี้ 3 พันลบ. ตลท.ขึ้น CB-ถอดออกดัชนี sSET- SETESG
RS ร่วงต่อ 15% กังวลเสี่ยงถูกแบงก์เรียกชำระหนี้ทั้งก้อนเฉียด 3 พันล้านบาท หลังผิดนัดจ่ายดอกเบี้ย 27.48 ล้านบาท ฟากตลท.ขึ้นเครื่องหมาย CB มีผลวันนี้ (19 พ.ค.) และถอดคำนวณดัชนี sSET และ SETESG มีผลวันที่ 21 พ.ค. 68 เหตุผิดนัดชำระหนี้ตามเกณฑ์ที่กำหนด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(19 พ.ค.68)ราคาหุ้น บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS ณ เวลา 10:08 อยู่ที่ระดับ 0.33 บาท ลบ 0.06 บาท หรือ 15.38% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 4.70 ล้านบาท
โดยราคาหุ้น RS ร่วงต่อจากเมื่อวันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา เนื่องจากมีแรงเทขาย หลังบริษัทแจ้งนัดชำระดอกเบี้ย 27.48 ล้านบาท และมีสิทธิ์ที่จะถูกสถาบันการเงินเรียกชำระคืนหนี้ของ RS และบริษัทย่อยทั้งก้อน มูลค่ารวมเกือบ 3 พันล้านบาท
ด้านนายวิทวัส เวชชบุษกร กรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน RS เปิดเผยว่า บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาเงินกู้ระหว่างบริษัทฯ และบริษัทย่อยกับสถาบันการเงิน โดยมียอดผิดนัดชำระดอกเบี้ย 27.48 ล้านบาท เป็นผลให้สถาบันการเงินมีสิทธิ์เรียกชำระคืนเงินกู้ยืมดังนี้ กรณีบริษัทฯ เงินกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาวจำนวน 940.20 ล้านบาท และ 831.32 ล้านบาท ตามลำดับ และกรณีบริษัทย่อยเงินกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาวจำนวน 225.23 ล้านบาท และ 878.57 ล้านบาท ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทฯ และบริษัทย่อยอยู่ระหว่างการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินเพื่อแก้ไขสถานการณ์อย่างเร่งด่วนที่สุด
ขณะที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ขึ้นเครื่องหมาย CB (บริษัทเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับฐานะการเงินหรือผลการดำเนินงาน) ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ซึ่งการซื้อหุ้น RS จะต้องซื้อด้วยบัญชี Cash Balance คือสมาชิกต้องดำเนินการให้ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้ากับสมาชิกเต็มจำนวนก่อนซื้อหลักทรัพย์นั้น ตั้งแต่วันที่ขึ้นเครื่องหมายเป็นต้นไป จนกว่าจะแก้เหตุดังกล่าวได้ รวมทั้งจะไม่นำหลักทรัพย์ของ RS มารวมในการคำนวณดัชนี sSET และ SETESG มีผลวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 เนื่องจากบริษัทผิดชำระหนี้ตามเกณฑ์ที่กำหนด
นอกจากนี้ RS กำหนดการประชุม Public Presentation ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.15 น. รูปแบบ Online meeting เพื่อให้ข้อมูลและชี้แจงแนวทางแก้ไขเหตุการณ์การผิดนัดชำระหนี้ดังกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 RS มีขาดทุนสุทธิ 274.63 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.1258 บาท ซึ่งขาดทุนเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 130.25 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.0609 บาท เนื่องจากธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่อ่อนตัว ทำให้รายได้ไม่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายคงที่ของธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่ค่อนข้างสูง รวมถึงธุรกิจพาณิชย์ที่รายได้จากโฮมช้อปปิ้งลดลงจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
โดยในไตรมาส 1/2568 RS มีรายได้รวมจากการขายและบริการ 454.7 ล้านบาท ลดลง 19.3% จากไตรมาสก่อน และลดลง 32.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ลดลงตามฤดูกาลของธุรกิจ (Seasonality) อาทิ อีเวนต์และคอนเสิร์ต โดยรายได้จากธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ 197.8 ล้านบาท ลดลง 27.1% จากไตรมาสก่อน และลดลง 42.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากรายได้สื่อโทรทัศน์ที่อ่อนตัวลง สอดคล้องกับภาวะชะลอตัวของอุตสาหกรรมสื่อโดยรวม ขณะที่ธุรกิจพาณิชย์มีรายได้ 255.6 ล้านบาท ลดลง 12.3% จากไตรมาสก่อน และลดลง 22.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลจากการชะลอตัวของช่องทางโฮมช้อปปิ้งจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค