PTL โชว์กำไรปี 68 โตเฉียด 300% รับรายได้ขาย- Fx หนุน เคาะปันผล 0.20 บาท

PTL รายงานกำไรปี 68 โตเกือบ 300% แตะ 1.15 พันล้านบาท รับรายได้ขาย และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน พร้อมแจกปันผล 0.20 บาท เตรียมขึ้น XD วันที่ 8 ส.ค.68 และกำหนดจ่าย 27 ส.ค.68


บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PTL รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 68 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.68 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัยเชิงบวก โดยเฉพาะการฟื้นตัวของอุปสงค์ในกลุ่มฟิล์มเคลือบปลายน้ำ เช่น ฟิล์มเคลือบซิลิโคนและฟิล์มเคลือบออฟไลน์ ซึ่งส่งผลให้ปริมาณการขายและการสนับสนุนจากธุรกิจปลายน้ำเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ ธุรกิจฟิล์มหลักอย่าง BOPET ทั้งแบบบางและหนา มีอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น จากสภาวะตลาดที่เอื้ออำนวย ขณะที่ธุรกิจฟิล์ม BOPP ก็มีปริมาณและอัตรากำไรที่สูงขึ้นเช่นกัน สะท้อนจากปริมาณการขายฟิล์มโดยรวมที่เพิ่มขึ้น 2.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะในกลุ่มฟิล์ม BOPP และฟิล์มปลายน้ำ

ด้านธุรกิจแผ่นฟิล์ม PET มีผลประกอบการที่ดีขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากอัตรากำไรที่สูงขึ้นตามสภาวะตลาด ขณะเดียวกัน ผลตอบแทนจากฟิล์มเคลือบซิลิโคน ฟิล์มเป้า และเม็ดพลาสติก PET ก็เพิ่มขึ้น จากทั้งปริมาณที่เพิ่มขึ้นและอัตรากำไรที่ดีขึ้น โดยเฉพาะฟิล์มเคลือบซิลิโคนที่เติบโตเด่น

ขณะที่ต้นทุนขายปรับเพิ่มขึ้นจากปริมาณขายที่สูงขึ้น และราคาวัตถุดิบบางรายการที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงและวัสดุอะไหล่ที่มากขึ้น

ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายปรับสูงขึ้นตามอัตราค่าระวางขนส่งระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารสูงขึ้นจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญของบริษัทย่อยในไทย รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านการเดินทาง การบริหารจัดการคลังสินค้า และค่าตอบแทนพนักงานที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ตรงข้ามกับปีก่อนที่มีผลขาดทุน โดยเกิดจากการปรับมูลค่าเงินกู้สกุลต่างประเทศในไทยและสหรัฐฯ ขณะเดียวกันมีผลขาดทุนบางส่วนจากการปรับมูลค่าเงินกู้ที่อินโดนีเซีย เนื่องจากค่าเงินท้องถิ่นผันผวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโร

นอกจากนี้บริษัทยังได้รับกำไรจากเครื่องมืออนุพันธ์ เนื่องจากผลของการประเมินมูลค่า Mark to Market (MTM) ของสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าที่ไทยและบริษัทย่อย ขณะที่รายได้ทางการเงินจากบริษัทย่อยที่สุราษฎร์ธานีลดลง จากอัตราดอกเบี้ยและจำนวนเงินลงทุนที่ลดลง

ด้านต้นทุนทางการเงินลดลงตามอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทั่วโลก และการชำระคืนเงินกู้ทั้งจากไทยและอินโดนีเซีย ซึ่งบางส่วนถูกชดเชยด้วยต้นทุนกู้ยืมเงินทุนหมุนเวียนที่สูงขึ้น

พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 เม.ย. 67 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 68 และกำไรสะสม เป็นเงินสด 0.20 บาทต่อหุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิ์ปันผล (XD) วันที่ 8 ส.ค.68 และกำหนดจ่ายปันผล 27 ส.ค.68

Back to top button