
5 เดือน ‘ภาษีทรัมป์’ สะท้านโลก.!?
ภายหลังชนะการเลือกตั้งแบบลอย ทำให้ “โดนัลด์ ทรัมป์” ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (ครั้งที่ 2) เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 68 มีการการประกาศมาตรการเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) และภาษีอื่น ๆ จำนวนมาก
ภายหลังชนะการเลือกตั้งแบบลอย ทำให้ “โดนัลด์ ทรัมป์” ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (ครั้งที่ 2) เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 68 มีการการประกาศมาตรการเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) และภาษีอื่น ๆ จำนวนมาก จนส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินและสร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจทั่วโลก
การประกาศครั้งแรก เริ่มต้นเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 68 เมื่อ “ทรัมป์” สั่งเก็บภาษีสินค้านำเข้าส่วนใหญ่จากเม็กซิโกและแคนาดาอัตรา 25% และสินค้าจากจีน 10% เพื่อเรียกร้องให้เพิ่มการป้องกันการขนส่งเฟนทานิลและการลักลอบเข้าเมือง
แต่ถัดมาวันที่ 3 ก.พ. 68 กลับมีการระงับการเก็บภาษี เป็นเวลา 30 วัน สำหรับเม็กซิโกและแคนาดา จากนั้นวันที่ 7 ก.พ. 68 “ทรัมป์” เลื่อนแผนการเก็บภาษีสินค้าราคาต่ำกับสินค้าจากจีน จนกว่าสหรัฐฯ จะจัดทำกระบวนการและระบบสำหรับรวบรวมรายได้จากภาษี และวันที่ 10 ก.พ. 68 ประกาศเก็บภาษีสำหรับสินค้าเหล็กและอลูมิเนียม 25%
เริ่มต้นเดือนมีนาคม (3 มี.ค. 68) “ทรัมป์” ประกาศการสิ้นสุดการระงับเก็บภาษี ที่จะมีผลวันต่อมาและเพิ่มอัตราภาษีที่เก็บกับสินค้าจีนมาที่ 20% แต่วันที่ 5 มี.ค. 68 ประกาศระงับเก็บภาษีรถยนต์บางรุ่น ที่ผลิตในเม็กซิโกและแคนาดา
แต่วันต่อมาระงับเก็บภาษีกับสินค้าทั้ง 2 ประเทศอีกครั้งเป็นเวลา 1 เดือน แต่ครั้นวันที่ 26 มี.ค. 68 มีประกาศมาตราการภาษี 25% ที่จะเก็บกับรถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็กนำเข้า..!!
เข้าสู่เดือนเมษายน (2 เม.ย. 68) “ทรัมป์” ขึ้นภาษีนำเข้ากับคู่ค้าของสหรัฐฯ ทุกราย โดยมีอัตราพื้นฐานอยู่ที่ 10% ขณะที่บางประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก มีการขึ้นภาษีเพิ่มเติมด้วยอัตราที่สูงกว่ามาก
ถัดจากนั้นเพียง 1 สัปดาห์ (9 เม.ย. 68) “ทรัมป์” ประกาศระงับการเก็บภาษีกับคู่การค้าส่วนใหญ่เป็นเวลา 90 วัน หลังตลาดการเงินมีความผันผวนอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามยังคงอัตราภาษีเบื้องต้น 10% กับทุกคู่ค้าไว้
แต่มีการปรับภาษีสินค้านำเข้าจากจีนขึ้นสูงถึง 145%
หลังจากนั้น (13 เม.ย.) รัฐบาลทรัมป์ ยกเลิกเก็บภาษีกับสินค้าโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่นำเข้ามาจากจีน
เข้าสู่เดือนพฤษภาคม (4 พ.ค. 68) “ทรัมป์” ประกาศการเก็บภาษีอัตรา 100% กับภาพยนตร์ที่ผลิตนอกสหรัฐฯ และวันที่ 9 พ.ค. 68 สหรัฐฯ ทำข้อตกลงการค้าทวิภาคีแบบจำกัดกับสหราชอาณาจักร แต่ยังเก็บภาษีเบื้องต้นไว้อยู่ ต่อมาวันที่ 12 พ.ค. 68 สหรัฐฯ กับจีนทำข้อตกลงลดอัตราภาษีนำเข้า
โดยสหรัฐฯ ลดอัตราภาษีนำเข้าจาก 145% มาที่ 30% ขณะที่จีนลดอัตรานำเข้าจาก 125% มาที่ 10% และวันต่อมา สหรัฐ ปรับลดภาษีสินค้าราคาต่ำจากจีนจาก 120% มาที่ 54%
มาสู่ช่วงปลายเดือน (31 พ.ค.) “ทรัมป์” ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็ก-อะลูมิเนียมจาก 25% เป็น 50% เริ่ม 4 มิ.ย. 68 สร้างความไม่พอใจให้สหภาพยุโรป โดยยุโรป ออกมาประกาศว่าจะทำการตอบโต้สหรัฐฯ
ขณะที่ “ศาลรัฐบาลกลาง” อยู่ระหว่างการพิจารณาการใช้อำนาจในการเก็บภาษีของทรัมป์ หลังจาก “ศาลการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ” ตัดสิน “ระงับนโยบายภาษีส่วนใหญ่ของทรัมป์” ด้วยเหตุผลว่า “ทรัมป์” ใช้อำนาจเกินขอบเขต แต่วันที่ 29 พ.ค. 68 ศาลอุทธรณ์ อนุญาตให้มีการเก็บภาษีต่อไปเป็นการชั่วคราว..!!?
นี่คือ..ผลงานประธานาธิบดีทรัมป์ กับ 5 เดือน..“สะเทือนเศรษฐกิจโลก” หนักหน่วงจริง ๆ..!?