
“พิชัย” เปิดข่าวดี! สหรัฐไฟเขียวเปิดโต๊ะเจรจาภาษี หวังคลายแรงกดดันการค้าไทย
รองนายกฯ พิชัย เผยสหรัฐฯ ตอบรับเปิดโต๊ะเจรจาภาษีอย่างเป็นทางการกับไทย เตรียมคุยระดับสูง หวังลดแรงกดดันภาษีศุลกากร พร้อมเดินหน้า 5 ข้อเสนอหลัก เสริมสัมพันธ์การค้าทวิภาคี
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายในงานสัมมนา Thailand Investment Forum 2025: Great Depression พลิกเกมฝ่าวิกฤต จัดโดยเครือเนชั่น เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 ว่าได้รับข้อความตอบกลับอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งเปิดทางให้มีการเจรจาภาษีระหว่างไทยและสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนการประสานงานเพื่อนัดหมายการหารือในระดับสูงต่อไป
โดยการเจรจาครั้งนี้ไม่ใช่จุดเริ่มต้นใหม่ แต่เป็นการยกระดับจากการพูดคุยในระดับคณะทำงานตลอดช่วงที่ผ่านมา โดยมีการปรับข้อเสนอให้ครอบคลุมประเด็นสำคัญ อาทิ อัตราภาษีนำเข้า มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (non-tariff measures) ปัญหาการสวมสิทธิ์ถิ่นกำเนิดสินค้า และการถ่ายโอนสินค้า (transshipment)
เขาระบุว่า ประเทศไทยยังยึดข้อเสนอหลัก 5 ข้อเดิมเป็นกรอบการเจรจา แต่อาจเพิ่มเติมรายละเอียดบางส่วน เพื่อให้ทันต่อบริบทและข้อเสนอจากประเทศอื่น ๆ พร้อมย้ำว่าภารกิจครั้งนี้คือการ “เจรจาเพื่อไม่ให้ไทยเสียเปรียบ” โดยเป้าหมายคือการเจรจาที่ส่งผลให้ภาษีของไทยไม่สูงเกินกว่าประเทศคู่แข่งอื่น ๆ ในเวทีโลก
“ขอเพียงไม่ให้ไทยถูกเก็บภาษีสูงกว่าประเทศอื่น ๆ ก็ถือว่าโอเคแล้ว” นายพิชัย กล่าว พร้อมเสริมว่าการที่สหรัฐฯ ตอบรับเปิดโต๊ะพูดคุยในระดับสูงครั้งนี้ ถือเป็นพัฒนาการที่สำคัญต่อทิศทางการค้าระหว่างสองประเทศ
สำหรับข้อเสนอหลัก 5 ข้อของประเทศไทยที่ยื่นต่อรัฐบาลสหรัฐฯ ได้แก่
1.เสริมความร่วมมือธุรกิจอาหารแปรรูป ระหว่างไทย-สหรัฐ ด้วยการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ เพื่อแปรรูปส่งออก และเจาะกลุ่มฐานเสียงภาคเกษตรของสหรัฐฯ
2.เพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะพลังงาน เครื่องบิน อาวุธ และสินค้าเกษตรสำคัญ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า
3.ลดอุปสรรคทางการค้า ทั้งภาษี MFN กว่า 11,000 รายการ และ NTBs รวมถึงการเปิดตลาดสินค้าเกษตรสหรัฐในไทย
4.คุมเข้มกฎหมายถิ่นกำเนิดสินค้า ป้องกันการสวมสิทธิ์สินค้าต่างประเทศส่งผ่านไทยไปยังสหรัฐฯ
5.ส่งเสริมการลงทุนไทยในสหรัฐฯ โดยเฉพาะพลังงานและเกษตร ปัจจุบันมีการลงทุนจากไทยกว่า 70 โครงการใน 20 มลรัฐ สร้างงานกว่า 16,000 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ ข้อเสนอข้างต้นมีเป้าหมายเพื่อลดการเกินดุลการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐลง 50% ภายใน 5 ปี และยกระดับความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ในระยะยาว