BGRIM ผนึกทุน “สิงคโปร์” ลุยดาต้าเซ็นเตอร์ 100 MW พร้อมจ่ายไฟปี 69

จับตา BGRIM ร่วมลงทุน Digital Edge ยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์สัญชาติสิงคโปร์ เปิดตัวโครงการ Data Center ขนาด 100 เมกะวัตต์ รองรับลูกค้าดาต้าเซ็นเตอร์ไฮเปอร์สเกล “บีกริม” เดินหน้าพัฒนาพร้อมจ่ายไฟปี 69


นายนพเดช กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจในประเทศไทยและโซลูชันธุรกิจอุตสาหกรรม บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า วันนี้ (9 มิ.ย. 2568) บริษัทจะเปิดตัวโครงการ Data Center ที่ BGRIM ร่วมลงทุนกับกลุ่ม Digital Edge ผู้ให้บริการ Data Center สัญชาติสิงคโปร์ เบื้องต้นจะพัฒนาโครงการขนาด 100 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับลูกค้าดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกล (Hyperscale) โดยคาดว่าจะเริ่มพัฒนาโครงการและกำหนดจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ช่วงปี 2569

ทั้งนี้โครงการความร่วมมือดังกล่าว สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ธุรกิจดิจิทัลกลุ่ม BGRIM พร้อมทั้งมีแผนขยายการลงทุนธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากมองว่าโครงการ Data Center เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก

โดย BGRIM มีเป้าหมายสู่การเป็นพันธมิตรหลักในการจัดหาพลังงานและให้บริการโซลูชันพลังงานครบวงจรให้กลุ่ม Data Centers ในประเทศไทย ตลอดจนเดินหน้าสร้างพันธมิตรกับผู้ประกอบการ Data Center ชั้นนำต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน

การเปิดตัวโครงการ Data Center ร่วมกับ Digital Edge ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญและบทใหม่ของ BGRIM ในการขยายการลงทุนสู่ธุรกิจดิจิทัลแห่งอนาคต สะท้อนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์โลกธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เวลา โดยผู้บริหาร Digital Edge และ BGRIM จะมีการแถลงความร่วมมือครั้งนี้วันนี้ โดยจะแจ้งให้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการร่วมทุนดังกล่าวต่อไป” นายนพเดช กล่าว

สำหรับ Digital Edge (Singapore) Holdings Pte. Ltd. เป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูล (Data Center) ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2563 และได้รับการสนับสนุนจากบริษัทลงทุน Stonepeak ซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารประมาณ 2.52 ล้านล้านบาท (ประมาณ 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ขณะที่ปัจจุบัน Digital Edge มีศูนย์ข้อมูล 21 แห่งที่เปิดดำเนินการหรืออยู่ระหว่างการก่อสร้าง รวมกำลังการผลิตกว่า 500 เมกะวัตต์ และมีแผนพัฒนากำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 300 เมกะวัตต์ในอนาคต ครอบคลุมประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ รวมทั้งประเทศไทย

โดยช่วงเดือน ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา ได้ระดมทุนกว่า 57,600 ล้านบาท (ประมาณ 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผ่านผู้ลงทุนรายใหม่และรายเดิม รวมถึงการจัดหาเงินกู้เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการใช้งานเทคโนโลยี AI และคลาวด์ในภูมิภาค

ด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม Digital Edge ตั้งเป้าเป็นองค์กรศูนย์ข้อมูลที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2573 โดยมีการใช้พลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว และการออกแบบอาคารที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมสากล

Back to top button