
“กสิกรไทย” แนะถือ PTTEP ชูปันผลสูง 7% ลุ้นลงทุน CCS แห่งแรกปลายปี 68
บล.กสิกรไทยแนะ “ถือ” หุ้น PTTEP ราคาเป้าหมาย 116 บาท ชี้เดินหน้าลงทุนโครงการ CCS แห่งแรกของไทย หนุนการลดคาร์บอน พร้อมลุยสำรวจบล็อกใหม่ในแอลจีเรียเสริมพอร์ตระยะยาว
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมเยี่ยมชมศูนย์วิจัยและโรงงานของ Halliburton ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านพลังงานรายใหญ่ของโลก โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นโดยบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านธุรกิจพลังงานสะอาด โดยเฉพาะเทคโนโลยีการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS), พลังงานหมุนเวียน, ไฮโดรเจน, ยานยนต์ไฟฟ้า และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
ทั้งนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มจะกลายเป็นศูนย์กลาง CCS ของเอเชียแปซิฟิก โดยมีอินโดนีเซียและมาเลเซียเป็นผู้นำในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ โดยตั้งเป้าเปิดตัวโครงการ 15 และ 3 โครงการตามลำดับ ภายในปี 2573 ขณะเดียวกัน ประเทศไทยตั้งเป้าหมายการกักเก็บคาร์บอน 40 ล้านตันต่อปีในปี 2593 และเพิ่มเป็น 60 ล้านตันต่อปีในปี 2608 เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และ Net Zero ตามลำดับ
สำหรับประเทศไทย PTTEP วางแผนตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายโครงการ CCS แห่งแรกในแหล่งก๊าซธรรมชาติ “อาทิตย์” ช่วงครึ่งหลังของปี 2568 โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ปลายปี 2571 กำลังการดักจับคาร์บอนอยู่ที่ 1 ล้านตันต่อปี ด้วยงบลงทุนประมาณ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยผู้บริหาร PTTEP มองว่าโครงการนี้มีความเป็นไปได้ในการลงทุนสูงจาก 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่
1.สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากรัฐบาล
2.มาตรการสนับสนุนด้านนโยบายที่อยู่ระหว่างพิจารณา
3.การเพิ่มกำลังการผลิตและจำหน่ายก๊าซในอนาคต
ด้านการขยายการลงทุนระหว่างประเทศ PTTEP โดยบริษัทในเครือ PTTEP Algeria (PTTEP AG) ร่วมกับพันธมิตร Eni Algeria Exploration (Eni) ได้รับสิทธิในสัญญา PSC สำหรับสัมปทานบล็อก Reggane II จากการประมูลในประเทศแอลจีเรียปี 2567 โดย Eni ถือหุ้น 66% และ PTTEP AG ถือ 34% โดยโครงการยังอยู่ในระยะสำรวจ พื้นที่รวมกว่า 40,828 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีศักยภาพด้านก๊าซธรรมชาติ โดยบล.กสิกรไทยประเมินโครงการจะใช้เวลา 5-7 ปีจึงจะเข้าสู่การผลิตเชิงพาณิชย์
ขณะที่ในส่วนของมุมมองการลงทุน บล.กสิกรไทย คงคำแนะนำ “ถือ” PTTEP โดยให้ราคาเป้าหมายกลางปี 2569 ที่ระดับ 116 บาทต่อหุ้น อิงจากการประเมินมูลค่าด้วยวิธี DCF แม้ราคาหุ้นจะฟื้นตัวตามแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง แต่ยังต้องเผชิญความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจโลกจากภาวะเงินเฟ้อและสงครามการค้า อย่างไรก็ตาม PTTEP ยังมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าสนใจ อาจแตะระดับ 7% ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนุนให้นักลงทุนยังสามารถ “ถือ” หุ้นไว้ต่อได้ในระยะกลาง