
“บล.กรุงศรี” มอง SET สัปดาห์นี้ “รีบาวด์” จับตาประชุม “กนง.” ชูหุ้นเด่น ADVANC-MTC-GULF
บล.กรุงศรี มองแนวโน้ม SET สัปดาห์นี้ “รีบาวด์” จับตาประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน คาดคงอัตราดอกเบี้ย 1.75% พร้อมจับตาสถานการณ์ตะวันออกกลาง โบรกแนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นเด่น ADVANC-MTC-GULF รับปัจจัยบวกเฉพาะตัว
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้รวบรวมกลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ระหว่างวันที่ (23 มิ.ย. – 27 มิ.ย. 68) ซึ่งเป็นบทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ประเมินตลาดหุ้นไทย “รีบาวด์” ให้กรอบแนวรับที่ 1,056-1,040 จุด จแนวต้าน 1,056-1,040 จุด โดยมีปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนี SET Index ที่ต้องติดตาม ได้แก่ วันที่ 25 มิ.ย. ติดตามการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งตลาดคาดการณ์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% ซึ่งทีมกลยุทธ์ประเมินมีโอกาสที่ กนง. พิจารณาลดดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 1.5%
ขณะที่ สถานการณ์การเมืองภายในฝ่ายนักวิเคราะห์ประเมินความเป็นไปได้ 3 ทาง คือ 1.) หากนายกรัฐมนตรี ประกาศลาออกตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ กรณีนี้ลดแรงกดดันต่อ SET Index ได้เร็ว
2.ประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ภายใน 45-60 วัน นับจากวันยุบสภา ซึ่งมีโอกาสส่งผลให้ SET ฟื้นตัวเร็ว เมื่อเริ่มชัดเจน เป็นกระบวนการ Refresh ตลาดระยะสั้น แต่มีผลกระทบต่องบประมาณปี 2569 ชั่วคราว ฯลฯ และความเป็นไปได้ที่ 3.) รัฐบาลเดินหน้าต่อเพื่อพลักดันร่างงบประมาณปี 2569 เดินหน้าด้วยเสียงปริ่มน้ำ น้อยกว่า 275 เสียง ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพในสภาฯ สูง
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยต่างประเทศที่มีผลต่อ ดัชนี SET Index คือ วันที่ 23 มิ.ย. ตลาดรอติดตามการประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตสหรัฐ (Flash Manufacturing PMI) เบื้องต้นประจำเดือน มิ.ย. โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 51.2 จุด ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 52.0 จุดในเดือนก่อนหน้า
วันที่ 24 มิ.ย. ตลาดติดตามการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence Index) จาก Conference Board ประจำเดือนพฤษภาคม โดยคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 99.4 จุด จากระดับ 98.0 จุดในเดือนก่อนหน้า
วันที่ 26 มิ.ย. สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 1/2025 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) โดยตลาดคาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัว 0.2% จากไตรมาสก่อนหน้า (q-q) ซึ่งเท่ากับรายงานครั้งก่อน
นอกจากนี้ จะมีการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนพ.ค. โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6.7% จากเดือนก่อนหน้า (m-m) ฟื้นตัวจากการหดตัว 6.3% ในเดือนเมษายน
สุดท้ายวันที่ 27 มิ.ย.นี้ ตลาดจับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core PCE) ของสหรัฐฯ ประจำเดือนพ.ค. โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนก่อนหน้า (m-m) และเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (y-y) ซึ่งชะลอลงเล็กน้อยจากระดับ 2.6% ในเดือนก่อนหน้า
ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจจากฝั่งยุโรปที่ต้องติดตาม คือ วันที่ 23 มิ.ย. ตลาดติดตามการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Flash Manufacturing PMI) เบื้องต้นประจำเดือนมิถุนายน โดยคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 49.0 จุด ลดลงจากระดับ 49.4 จุดในเดือนก่อนหน้า
รวมไปถึง วันที่ 17 มิ.ย. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) มีกำหนดจัดการประชุมนโยบายการเงิน โดยตลาดคาดว่า BoJ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.5% พร้อมกับมีแนวโน้มปรับลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) จากระดับ 400,000 ล้านเยนต่อไตรมาส เหลือ 200,000 ล้านเยนต่อไตรมาส
ทั้งนี้ จากการประเมินสัปดาห์นี้ SET คาดการณ์ “Rebound” โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากคาดการณ์รายงานเงินเฟ้อสหรัฐ PCE มีโอกาสจะ Surprise ทางบวก/ปรับลง หนุนโอกาสลดดอกเบี้ย 2 ครั้งปีนี้ ผสานกับความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หากยังไม่มีการปิดช่องแคบฮอร์มุส และ สหรัฐเข้าร่วมคาดราคาน้ำมันดิบยังมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น แต่ปัจจุบันปรับขึ้นมารับข่าวไประดับนึงแล้ว
ส่วนภายในเรื่องสำคัญคือ การเมืองไทย ยังต้องติดตามสถานการณ์ SET Price in แล้ว โดย Overhang เสถียรภาพการเมืองยังอยู่ต่อและกลางอาทิตย์ ประชุม กนง. ตลาดคาดคงดอกเบี้ยฯ 1.75% แต่ลุ้นลดดอกเบี้ย หากลด 0.25% จะบวกต่อ SET upside ราว 45 จุด
ขณะที่ หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ ประเมินกลุ่มพลังงาน น้ำมัน ปิโตรเคมี กลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยลงอาทิ ICT, การเงิน โรงไฟฟ้า หนี้สูง โดยมีหุ้นเด่นประจำสัปดาห์แนะนำ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 340 บาท นับเป็นหุ้นในกลุ่ม Defensive ที่มีความแข็งแกร่ง อีกทั้งอุตสาหกรรมอยู่ในช่วงขาขึ้น (Upcycle) ซึ่งเหมาะสมกับภาวะตลาดในปัจจุบัน
บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 58 บาท จากปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ ความคาดหวังต่อโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ ความสามารถในการบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแนวโน้มกำไรที่มีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High)
นอกจากนี้ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ให้ราคาเป้าหมาย 56.50 บาท โดยถือเป็นหุ้นหลักที่ตลาดให้ความสนใจในฐานะเป้าหมายแรกๆ ของกลุ่ม Domestic พร้อมกับมีโอกาสได้รับประโยชน์จากความคาดหวังที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
นอกจากนี้ ยังคงต้องติดตามเงินลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) สัปดาห์ที่แล้วเงินทุนไหลเข้า (หุ้น+พันธบัตร) ภูมิภาค Asia (exJ) +318.6 ล้านเหรียญฯ ไทย เงินไหลออก -233.4 ล้านเหรียญฯ (ขายหุ้นและพันธบัตร -183.6 และ -49.8 ล้านเหรียญฯ) เงินบาทอ่อนค่า w-w ที่ 32.84 +/-บาท